นานาสาระเกี่ยวกับพุทธศาสนา
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวเถรวาท
ความเป็นมาพระไตรปิฎกฉบับภาษาไทย
สำหรับพระไตรปิฎกฉบับไทย กล่าวได้ว่าในปัจจุบันฉบับไทยก็นับว่าสมบูรณ์หรือจะเรียกว่าสมบูรณ์ที่สุด
ในการพิมพ์ซ่อมคราวต่อๆ ไป พระเถระท่านก็พยายามที่จะทำสารบาญค้นคำให้ดีขึ้น
อันนี้พวกอินเดียบ่นว่าเราทำไว้ไม่ค่อยเรียบร้อยเวลาเขาเอาไปค้น
ก็เพราะว่าหลายๆ ท่านด้วยกันทำไม่ได้เป็นแบบเดียวกัน
มายุคหลังพระเถระที่ท่านแก้ไขในการพิมพ์ซ่อมฉบับที่หมดๆ
คราวต่อไปนี่ ท่านก็พยายามทำสารบาญค้นธรรมให้ดียิ่งขึ้น
แต่พระไตรปิฎกที่แปลเป็นภาษาต่างประเทศ คือแปลจากภาษาบาลีไปแล้วที่สมบูรณ์ที่สุด
อยากจะให้เป็นภาษาไทย คือของที่เป็นภาษาอังกฤษเองเวลานี้ยังไม่หมด
อยากให้เป็นที่สองของไทย แต่พม่าพอสังคายนาเสร็จแล้ว
เวลานี้กำลังรุดหน้าใหญ่ในการทำแปลพระไตรปิฎกเป็นภาษาพม่าแต่ยังไม่เสร็จ
ที่สมบูรณ์รองจากของไทยก็คือของอังกฤษ บางครั้งเขายังต้องขอให้ทางประเทศไทยคัดลอกจากคัมภีร์ใบลาน
คือบางคัมภีร์ที่ยังไม่มีในประเทศอังกฤษ เป็นอักษรไทยก็ไม่ว่าละ
คัดไปแล้วเขาไปอ่านเองไปจัดเป็นอักษรโรมันเอง
คือเขาทำงานกันจริงเหมือนกันแม้ว่าในการคัดลอกนั้น
จะต้องจ้างต้องลงทุนลงแรง เขายอมเสียสละเพื่อที่จะแปลพระไตรปิฎกให้ครบชุดให้ได้
แต่ว่าในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยเราเป็นประเทศเดียวในโลก
ที่มีพระไตรปิฎกแปลครบสมบูรณ์ เพราะว่าพระไตรปิฎกนี่มากมายเหลือเกิน
อย่างฉบับไทยเรามี ๔๕ เล่ม นี่ถ้าจะแปลกันจริงๆ
ไม่ใช่เล็กน้อยทีเดียว ลองเอาไปเทียบกับเอนไซโคลปีเดียแล้ว
เพียงแต่ตัวพระไตรปิฎกเราก็เกินเอนไซโคลปีเดียไปเท่าไหร่
Britannica ก็มี ๒๔ หรือ ๒๕ เล่ม ทีนี้ก็ยังมีแปลกันจนจบ
ทั้งของคุณสม พ่วงภักดี และของกรมการศาสนา ที่นับว่าเป็นการแปลอย่างมากที่สุด
เราน่าจะภาคภูมิใจว่าประเทศไทยเราได้มีพระไตรปิฎกฉบับที่สมบูรณ์
ปัญหาสำคัญมีอยู่ข้อหนึ่งคือปัญหาที่ว่า การทรงจำพระไตรปิฎกนั้น
จะทำได้แค่ไหน เมื่อสังคายนาครั้งที่ ๑ เสร็จแล้ว
ได้มีการมอบงานกัน คือว่าองค์นี้พร้อมทั้งลูกศิษย์ช่วยกันจำส่วนนี้
องค์นี้พร้อมทั้งลูกศิษย์ช่วยกันจำส่วนนี้ แบ่งงานกันทำเพื่อจะได้จำได้สมบูรณ์
คือว่าไม่ใช่จำคนเดียวหมด ๔๕ เล่มนี้ ท่องหมดก็ไม่ไหว
เพียงเล่มเดียวก็นึกว่าแย่เหมือนกัน แต่ทีนี้ท่านแบ่งกันท่องจำ
แล้วก็เพราะในสมัยนั้นไม่มีการจดก็ต้องใช้การจำ
คือถ้ามีการจดเข้าเมื่อไหร่ การจำก็ไม่ค่อยจำเป็น
ในสมัยที่ยังไม่มีการจด การจำเป็นของจำเป็นมาก
เราก็ได้มีตัวอย่างการจำ อย่างในประเทศพม่า
พระเถระที่จะสอบได้ชั้นสูงๆ นั้น ต้องว่าพระไตรปิฎกได้จบเป็นเล่มๆ
พระลังกาที่ท่านได้เคยมีสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณสาธุศีลสังวร
มาอยู่ในประเทศไทย เวลาเรามีอะไรสงสัยก็เคยไปถามท่านเหมือนกัน
แล้วท่านก็ว่าปากเปล่าให้ฟัง มีการจำเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นเรื่องการจำพระไตรปิฎก ไม่ใช่เป็นเรื่องเหลวไหล
เป็นเรื่องที่แบ่งงานกัน จึงมีสำนักอาจารย์ที่เรียกว่า
อาจารย์นี้ท่องจำพระไตรปิฎกหมวดยาวคือ พระสูตรยาวๆ
อาจารย์นี้ท่องจำพระไตรปิฎกขนาดพระสูตรปานกลาง
โดยนัยนี้การนำพระไตรปิฎกสืบต่อมาก็มีทางที่จะเป็นไปได้
ในปัจจุบันก็มีการท่องจำแบบที่ว่าทำอย่างไรจึงจะจำได้โดยไม่ต้องท่อง
คือว่าถ้าท่องๆ ให้แต่น้อย และถ้าไม่ต้องท่องจะมีวิธีจำอย่างไร
ถึงจะจำข้อความบางทีตั้ง ๕๐-๖๐ เรื่อง ติดต่อกันไม่ให้สับลำดับ
ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ข้อมูลจาก “ความรู้เรื่องพระไตรปิฏก
ความเป็นมาแห่งพระไตรปิฎกฝ่ายเถรวาท”
ปาฐกถาโดย อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ
คัดมาจาก
http://mahamakuta.inet.co.th/tipitaka/tipitaka4/tipi~243.htm
|
|