| เกิดพระอรหันต์
6 องค์แรก ในโลก ปฐมเทศนา ปฐมสาวก เป็นอย่างไร
พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้เมื่อวันขึ้น ๑๕ ค่ำ
เดือน ๖ และประทับเสวย วิมุตติสุข ณ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา
ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธเป็นเวลา ๔๙
วัน จากนั้นพระบรมศาสดาทรงดำเนินสู่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
ใกล้เมืองพาราณสีเพื่อทรงแสดงธรรมโปรดปัญจวัคคีย์อันมี
โทฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ
พระบรมศาสดาทรงระลึกว่า ปัญจวัคคีย์เป็นผู้มีอุปนิสัยในอันจะตรัสรู้ธรรม
ทั้งมีอุปการะแก่ประองค์มาก ได้อุปัฏฐากของประองค์เมื่อครั้งทรงบำเพ็ญทุกรกิริยา
พระบรมศาสดาใช้เวลา ๑๑ วันเดินทางมาถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
ในยามเย็นของวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๘ ปัญจวัคคีย์ยังคงเข้าใจว่าพระสมณโคดมเลิกละความเพียรในการบำเพ็ญตบะในทุกรกิริยา
คงจะไม่มีโอกาสได้บรรลุพระสัมโพธิญาณแล้ว
จึงนัดหมายกันทำเพิกเฉยแสดงอาการไม่เคารพไม่ยินดีในการเสด็จมาของพระผู้มีพระภาคเจ้าและกล่าวปฏสันถารใช้สำนวนอันเป็นกริยาไม่เคารพ
แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า " ดูกร
ปัญจวัคคีย์ บัดนี้ ตถาคตได้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว
มาครั้งนี้หวังจะแสดงธรรมแก่เธอทั้ง ๕ เธอจงตั้งใจสดับและปฏิบัติตามคำของตถาคต
ไม่ช้าไม่นานสักเท่าใดก็จะได้ตรัสรู้ตาม"
ปัญจวัคคีย์ไม่เชื่อ กลับคัดค้าน แม้พระบรมศาสดาจะตรัสเตือนซ้ำอีก
ปัญจวัคคีย์ก็ยังไม่เชื่อ กล่าวโต้แย้งถึง
๓ ครั้ง พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสเดือนด้วยพระกรุณาให้ปัญจวัคคีย์หวนระลึกถึงความหลังดูว่า
"ดูก่อน ปัญจวัคคีย์ วาจาที่ไม่ควรเชื่อคำใด
ตถาคตเคยกล่าวอยู่บ้างหรือ แม้แต่คำว่า ตถาคตได้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณนี้
ตถาคตเคยกล่าวกะใคร ที่ไหน แต่กาลก่อน"
ด้วยอานุภาพของพระวาจาจริงของพระองค์ เป็นอัศจรรย์ทำให้ปัญจวัคคีย์ระลึกเห็นตาม
พากันแน่ใจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสรู้จริงดังพระวาจา
ก็พร้อมกันถวายบังคมพระยุคลบาทด้วยคารวะ ขอประทานอภัยโทษที่แสดงอาการไม่เคารพต่อพระองค์
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จประทับพักในสำนักปัญจวัคคีย์
๑ ราตรี ครั้นรุ่งขึ้น วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน
๘ พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนาครั้งแรก
เป็นปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ พระองค์ประกาศ
"ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร" คือ "พระสูตรว่าด้วยการยังธรรมจักรให้เป็นไป"
หรือพระสูตรว่าด้วยการหมุนวงล้อธรรม
ปฐมเทศนา "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร"
ว่าด้วยมัชฌิมาปฏิปทา คือทางสายกลาง ซึ่งเว้นที่สุด
๒ อย่างและว่าด้วยอริยสัจ ๔ อันมี ทุกข์สมุทัย
นิโรธมรรค ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ อันทำให้พระองค์สามารถปฏิญาณว่า
ได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ (ญาณคือความตรัสรู้เองโดยชอบอันยอดเยี่ยม)
ท่านโกณฑัญญะ หัวหน้าคณะปัญจวัคคีย์ ฟังพระธรรมเทศนานี้แล้ว
ได้ดวงตาเห็นธรรม (ธรรมจักษุ) พระพุทธเจ้าทรงเปล่งอุทานว่า
"อญญาสิ วต โภ โกณฑญโญ ๆ"
(โกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ ๆ)
จากนั้นมา คำว่า "อัญญา"จึงมารวมกับชื่อของท่าน
ท่านอัญญาโกณฑัญญะได้บรรลุโสดาปัตติมรรคเป็นพระโสดาบัน
และทูลขอบวชเป็นภิกษุในประธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าประทานด้วยพระองค์เองด้วยการเปล่งพระวาจาว่า
"ท่านจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว
ท่านจงประพฤติพรหมจรรย์เพื่อทำให้สุดทุกข์โดยชอบเถิด"
ณ บัดนั้น พระอัญญาโกณทัญญะจึงเป็นปฐมสาวกหรือพระสาวกองค์แรกของพระพุทธเจ้า
เป็นพระสงฆ์องค์แรกของพระพุทธศาสนา เป็นอันว่าพระรัตนตรัย
คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ได้เกิดขึ้นแล้วบริบูรณ์ในกาลแต่บัดนั้น
พระพุทธเจ้าทรงจำพรรษา ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวันทรงสั่งสอนพรรพชิตทั้ง
๔ รูปที่เหลืออยู่นั้นด้วยพระธรรมเทศนาต่าง
ๆ ต่อมาท่านวัปปะกับท่านภัททิยะได้ธรรมจักษุดวงตาเห็นธรรมทูลขออุปสมบทพระบรมศาสดาทรงประทานเอหิภิกขุอุปัมปทาให้
และต่อมาท่านมหานามะกับท่านอสัสชิได้ธรรมจักษุ
ทูลขออุปสมบท และพระผู้มีประภาคเจ้าทรงประทานเอหิภิขุอุปสัมปทาให้เช่นกัน
ครั้นพระภิกษุปัญจวัคคีย์ตั้งอยู่ในที่พระสาวกและมีอินทรีย์
มีศรัทธา แก่กล้าสมควรสดับธรรมจำเริญวิปัสสนา
เพื่อวิมุตติสุขเบื้องสูงแล้ว ครั้นถึงวันแรม
๕ ค้ำ แห่งเดือนสาวนะ คือเดือน ๙ พระบรมศาสดาจึงได้แสดงพระธรรมสั่งสอนพระภิกษุปัญจวัคคีย์ด้วย
"อนัตตลักขณสูตร" คือพระ สูตรที่แสดงลักษณะแห่งเบญจขันธ์ว่าเป็นอนัตตา
(ไม่ใช่ตัวใช้ตน) เพื่อพระบรมศาสดาตรัสพระธรรมเทศนาแสดงอนัตตลักขณสูตรอยู่จิตของพระภิกษุปัญจวัคคีย์ผู้พิจารณาภูมิธรรมตามกระแสเทศนานั้นพ้นแล้วจากอาสวะ
(กิเลสที่หมักหมมไว้ดองอยู่ในสันดานไหลซึมซ่านไปย้อมจิตเมื่อประสบอารมณ์ต่าง
ๆ ) ไม่ถือมั่นด้วยอุปาทาน สำเร็จเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด
ครั้งนั้น มีพระอรหันต์เกิดขึ้นในโลก ๖ องค์แล้ว
คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑ กับ พระอริยสาวก
๕ คือ พระอัญญาโกณฑัญญะ ๑ พระวัปปะ ๑ พระภัททิยะ
๑ พระมหานามาะ ๑ พระอัสสชิ ๑ รวม เป็น ๖ ด้วยประการฉะนี้
คัดมาจาก
http://www.dhammathai.org/buddha/g33.php
|