การสวดมนต์ในศาสนาซิกข์

              ตามหลักคำสอนที่ได้บัญญัติไว้ในพระมหาคัมภีร์คุรุครันธ์ซาฮิบนั้น ชาวซิกข์ทุกคนควรจะตื่นแต่เช้ามืดก่อนอรุณรุ่ง และหลังจากที่ได้อาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกายเรียบร้อยแล้ว ก็ควรจะสวดมนต์ภาวนาสรรเสริญและรำลึกถึงพระนามของพระผู้เป็นเจ้า หรือ "วาเฮ่คุรุ" การสวดมนต์นี้จะช่วยขจัดความทุกข์ยากลำบากทั้งปวงในชีวิตให้หมดไป ดังคำกล่าวในพระมหาคัมภีร์คุรุครันถ์ซาฮิบว่า
              “จงตื่นแต่เช้า รำลึกถึงนามพระองค์ ภาวนา รำลึกถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งเช้าและค่ำ, เจ้าจะไร้ซึ่งความทุกข์เศร้า และศัตรูทั้งปวง” (คุรุครันถ์ซาฮิบ-๒๕๕)

การสวดภาวนาในชีวิตประจำวันของชาวซิกข์
              ตอนเช้า
                            ซัปฺ ซาฮิบ
                            ซาปฺ ซาฮิบ
                            บทซาวัยเอ้ (ประพันธ์โดยพระศาสดาองค์ที่ ๑๐)
                            จอปาอี
                            อนันด์ ซาฮิบ
                            อารดาส

              ตอนเย็น
                            แร่ห์ราส

              ตอนดึก (ก่อนนอน)
                            โซเฮาล่า

              นอกจากนี้ ชาวซิกข์ทุกคนจะต้องเข้าร่วมเจริญธรรมที่ศาสนสถานคุรุดวารา (วัดของชาวซิกข์) เป็นประจำสม่ำเสมออีกด้วย

การสวดภาวนาประกอบพิธีกรรมต่างๆ ของชาวซิกข์
              ชาวซิกข์ไม่ว่าหญิงหรือชายสามารถประกอบพิธีสวดภาวนาหรือประกอบพธีทางศาสนาได้โดยเสรี ศาสนพิธีส่วนใหญ่จะเริ่มด้วยการขับร้องบทสวดเป็นทำนองเพลงโดยใช้เครื่องดนตรีเสริม ในโอกาสพิเศษหรือวันสำคัญทางศาสนาจะมีการขับร้องหรือกล่าวบทกวีสรรเสริญ และบรรยายถึงวีรกรรมของเหล่าวีระชนซิกข์ในประวัติศาสตร์ หลังจากสิ้นสุดศาสนพิธีต่างๆ จะมีการสวด อารดาส การสวดภาวนาซึ่งเป็นบทภาวนาขอพรวาเฮ่คุรุ (พระผู้เป็นเจ้า) ให้โปรดเมตตาประทานสันติภาพ ความมั่งคั่งและปกป้องมวลมนุษย์ชาติจากผองภัยทั้งปวง หลังจากเสร็จการสวดมนต์ภาวนา ศาสนาจารย์จะอ่านบทสวดจากพระมหาคัมภีร์คุรุครัมถ์ซาฮิบ (แล้วจะมีการแจกจ่ายขนมหวาน คาร่าปัรซาดแก่ศาสนิกชนที่มาร่วมในพิธีทุกท่าน เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี)

อารดาส
              อารดาส เป็นคำรวมของ ๒ คำ ได้แก่ อารัญคือ การขอ การอธิฐาน และ ดชัตคือ มือ พนมมือ (หมายถึง การร้องขอของผู้รับใช้) ผู้รับใช้ต่อนาย ซิกข์อธิฐานต่อพระผู้เป็นเจ้า โดยที่พื้นฐานของการขอหรืออธิฐานของซิกข์ไม่ใช่เป็นการขอจากความหวาดกลัว แต่เป็นการขอความรัก ความเมตตาจากพระองค์ สำหรับซิกข์การอารดาสเป็นพันธะอย่างหนึ่ง
              
บทอธิฐานอารดาสของซิกข์แตกต่างจากบทภาวนาอธิฐานของศาสนาอื่น ชาวซิกข์ไม่ควรจะสวดภาวนาขอทรัพย์สมบัติ ความสะดวกสบาย ผลประโยชน์ทางวัตถุเพื่อตนเอง แต่ควรจะเคารพและยอมรับในพระกรุณาของพระผู้เป็นเจ้า ชาวซิกข์ควรจะสวดอารดาสเพื่อขอพร ขอพลังจาก วาเฮ่คุรุ” (พระผู้เป็นเจ้า) ในการที่จะสามารถดำรงชีวิตที่เปี่ยมด้วยสัจธรรม โดยทั่วไปชาวซิกข์จะสวดอารดาสอย่างน้อยสองครั้งในหนึ่งวัน คือ ในเวลาเช้าตรู่และอีกครั้งหนึ่งในตอนเย็น ชาวซิกข์ทั้งมวลจะสวดบทอารดาสมาตราฐานที่ได้รับการอนุมัติจากอกาลตาคัตซาฮิบ (องค์การกลางสูงสุดทางศาสนาซิกข์)

บทสวดอัรดาสสากลนี้สามารถอธิบายแยกได้เป็น ๒ หัวข้อ ซึ่งประกอบด้วยรายละเอียดย่อย ๗ ประการ ได้แก่
ในส่วนแรก ชาวซิกข์จะถวายความเคารพและระลึกถึง
              ๑. พระผู้เป็นเจ้า พระศาสดาทั้ง ๑๐ พระองค์ และพระศาสดานิรันด์กาล ศีรีคุรุครันถ์ซาฮิบ
              ๒. ปัญจปีอาเร (ผู้เป็นที่รักยิ่งทั้งห้า) พระราชบุตรทั้งสี่พระองค์ของพระศาสดาคุรุโควินท์สิงห์ และวีรชนผู้เสียสละทั้งมวลที่ทำคุณประโยชน์ ยอมพลีชีพตนเพื่อส่งเสริมและผดุงรักษาสัจธรรมของศาสนา
              ๓. วีระบุรุษ วีรชนของซิกข์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
              ๔. ศาสนสถาน (คุรุดวารา) ต่างๆ และบัลลังห์แห่งอำนาจทั้งห้าของซิกข์

ในส่วนที่สอง ชาวซิกข์จะสวดอธิฐานของพรต่างๆ จากพระผู้เป็นเจ้า คือ
              ๑. เพื่อความสุขสบาย สวัสดิภาพของประชาคมซิกข์ สถาบันทางศาสนา ส่งเสริมวัฒนธรรมของซิกข์ และอำนาจที่เป็นธรรมในการตัดสินแก่ประชาคมซิกข์
              ๒. พรในการดำรงชีวิตของชาวซิกข์ตามศาสโนวาท ศาสนวินัย พรในการรักษาและปฏิบัติตามข้อบัญญัติของซิกข์ พรในการภาวนาเจริญธรรม และพรในการสรงน้ำในอมฤตสระ (เข้าใจ ซึบซาบในรสแห่งอมฤต คือ พระธรรมของพระศาสดา) พรในการเข้าใจสัจธรรม
              ๓. ขอประทานพรแห่งความอ่อนน้อม ถ่อมตน สติปัญญาที่สูงส่ง ชาญฉลาด ขณะเดียวกันขอให้พระองค์ทรงปกป้องภูมิปัญญาอันสูงส่งนี้ (ไม่ให้เกิดความอหังการและลืมตน) สุดท้าย ขอพรเมตตาให้มวลมนุษย์และสรรพสิ่งทั้งมวลจงประสบความสุขความเจริญ

              จากนั้น ก็ขอพร วาเฮ่คุรุ ตามแต่โอกาสที่ศาสนิกชนประสงค์ประกอบพิธีกรรม


ดาวน์โหลดเอกสาร
แหล่งข้อมูล :       ——————.วิถีแห่งซิกข์  What is Sikhism. กรุงเทพ: ศรีคุรุสิงห์สภา.
http://www.thaisikh.org
หมายเหตุ สำหรับรายละเอียดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่แหล่งข้อมูลข้างต้น

ขอขอบพระคุณ : สมาคมศรีคุรสิงห์สภา (สถาบันศาสนาซิกข์แห่งประเทศไทย) ในการเอื้อเฟื้อข้อมูลต่างๆ