รายงานวิจัยเรื่อง “การเปลี่ยนพฤติกรรมวัยรุ่นด้วยสมาธิ”

 กรณีศึกษา : วัดปากน้ำ  ภาษีเจริญ

โดย นางสาวณัฎฐา  แก่นจันทร์


การวิจัยในครั้งนี้ได้ผลการวิจัยสรุปดังนี้

                                วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นวัดที่ให้ความสำคัญกับการปลูกฝังให้วัยรุ่นมีคุณธรรม จริยธรรมอยู่ในจิตใจ เพื่อจะได้พัฒนาพฤติกรรมของวัยรุ่นไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งทางวัดไม่ได้ปลูกฝังเฉพาะเรื่องสมาธิเพียงอย่างเดียว แต่ยังปลูกฝังคุณงามความดี ศีลธรรม คุณธรรมและจริยธรรมลงสู่จิตใจของวัยรุ่นด้วย ซึ่งตรงจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาตนเองไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหลังจากปฏิบัติสมาธิ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้รู้จักการอยู่ร่วมกันในสังคม ได้ทำกิจกรรมด้วยกัน เช่น การสวดมนต์ ไหว้พระ ฟังเทศน์ ฟังธรรม เป็นต้น โดยจะเน้นสอนให้วัยรุ่นมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการฝึกสมาธิว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง เป็นหนึ่งในข้อบุญกิริยาวัตถุ               10 ประการ เพราะมนุษย์ต้องรู้จักหมั่นทำบุญ จะช่วยให้ชีวิตของเรามีความสุขดำเนินไปในทางที่ถูกที่ควร

วัยรุ่นที่เข้ามาฝึกปฏิบัติสมาธิจะใช้เวลาว่างในช่วงปิคภาคการศึกษา ส่วนใหญ่ให้ความสนใจและมีความศรัทธา เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะร่างกายต้องรับประทานอาหาร 3 มื้อ ใจก็เช่นเดียวต้องการอาหารใจด้วย การฝึกสมาธิช่วยให้เกิดสติ เมื่อมีสติก็จะช่วยทำให้เรารู้จะหาวิธีแก้ปัญหา/แก้ทุกข์ด้วยปัญญา แต่ก่อนที่จะเข้ามาฝึกปฏิบัติสมาธิวัยรุ่นต่างให้เหตุผลว่าส่วนใหญ่มักมักมีปัญหา ได้แก่ ความเครียดจากการเรียน ความรัก ชอบคิดฟุ้งซ่าน มีพฤติกรรมก้าวร้าว ไม่มีสัมมาคาระ/เชื่อฟังผู้ใหญ่  อารมณ์ร้อน ไม่มีเหตุผล ไม่มีความอดทน หงุดหงิดโมโหง่าย เป็นต้น และมักจะหาทางออกด้วยการปรึกษาเพื่อนมากว่าพ่อแม่ เพราะคิดในมุมมองของตัวเองว่าเพื่อนคือบุคคลที่จะช่วยปรับทักข์/แก้ปัญหาให้ได้ ซึ่งบางครั้งก็จะหันไปพึ่งสิ่งเสพติด โดยทุกอย่างของการตัดสินมักจะไม่มีเหตุผล ทำไปเพราะอารมณ์ ขาดสติหยั่งคิด แม้จะรู้ว่ามนุษย์เราทุกคนไม่สามารถที่จะพึ่งพาคนอื่นได้ตลอดเวลา เราควรรู้จักพึ่งตนเองให้มากที่สุด ท้ายที่สุดของปัญหาแล้วเราต้องแก้ไขด้วยสติปัญญาของตัวเอง ดังนั้นจึงเห็นว่าการฝึกสมาธิจะช่วยให้ตัวเองมีสติมากขึ้นและรู้จักใช้ปัญญาตัดสินปัญหา แต่หลังจากเข้ามาฝึกปฏิบัติสมาธิแล้วก็มีความรู้สึกว่าพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เช่น เชื่อฟังพ่อแม่ ไม่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว/เอาแต่ใจตัวเอง รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ใจเย็นขึ้นและสุขุม มีสติและรู้จักไตร่ตรองพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ มีความอดทน รู้จักปล่อยวางมากขึ้น ฯลฯ ประการสำคัญยังช่วยให้ผลการเรียนดีขึ้นอีกด้วย

ดังจะกล่าวได้ว่าการฝึกปฏิบัติเป็นสิ่งที่ความสำคัญอย่างมาก มีแต่เกิดประโยชน์ซึ่งสามารถปฏิบัติได้ทุกเพศทุกวัย ทุกศาสนา เพราะการมีความตั้งมั่นแห่งจิตใจที่มั่นคง เข้มแข็งแล้วก็จะช่วยให้การกระทำสิ่งต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความปกติสุขและให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ดาวน์โหลดเอกสาร
ค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมที่ :    http://www.li.mahidol.ac.th/  หรือ

                                          ห้องสมุดแพทย์หญิงคุณอรวรรณ คุณวิศาล วิทยาลัยศาสนศึกษา  มหาวิทยาลัยมหิดล


back>>