การสวดมนต์ในศาสนาอิสลาม



                                ศาสนาอิสลามเกิดในประเทศซาอุดิอารเบียประมาณ ๑๑๓ ปีหลังพุทธศักราช อิสลามเป็นศาสนาประเภทเอกเทวนิยม ถือว่ามีพระเจ้าสูงสุดเพียงองค์เดียวคือ พระอัลเลาะห์ ซึ่งเป็นผู้สร้างโลกและ    สรรพสิ่ง และทรงเป็นผู้กำหนดชะตากรรมของมนุษย์และสรรพสิ่ง ศาสดาของศาสนาอิสลามคือ                   พระนบีมะหะหมัดหรือมุฮัมมัด และคัมภีร์ที่สำคัญของศาสนาอิสลาม ได้แก่ คัมภีร์อัลกุรอาน และ       คัมภีร์อัลฮะดิส

                                ศาสนาอิสลามมีนิกายต่างๆ อยู่มากมาย แต่นิกายใหญ่ ในศาสนามีอยู่ ๒ นิกาย คือ ๑.) นิกายซุนนี  ๒.) นิกายซิอะห์  ปัจจุบันศาสนาอิสลามมีผู้นับถือมากเป็นอันดับสองรองจากศาสนาคริสต์ โดยมี           ศาสนิกชนกว่า ๙๐๐ ล้านคน โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในประเทศแถบตะวันออกกลางและในทวีปแอฟริกา ส่วนทวีปเอเชียก็มีมากในประเทศปากีสถาน บังกลาเทศ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย

                                ในศาสนาอิสลามมีข้อปฏิบัติหลักๆ อยู่ ๕ ประการ และหนึ่งในหลักปฏิบัตินั้นก็คือ การสวดมนต์ การสวดมนต์ของชาวมุสลิม เรียกว่า ละหมาด คือ การประกอบกิจบูชาสักการะอัลลอหฺด้วยการอ่านบทสรรเสริญและการวิงวอนในอาการต่างๆ เช่น การยืน ก้ม กราบ และนั่ง การละหมาดเป็นการปฏิบัติเพื่อแสดงความเคารพและภักดีต่อพระเจ้า เป็นการสำรวมจิตระลึกถึงพระเจ้า และเป็นการขัดเกลาจิตให้สะอาดบริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างพลังให้เข้มแข็ง การละหมาดเป็นกิจที่ต้องทำเป็นประจำในโอกาสต่างๆ

 
ร็อกอะฮ์ (หรือร็อกอะหฺ) คือ หน่วยย่อยของการละหมาด

                                การละหมาดในโอกาสต่างๆ

                                ๑.)           ละหมาดรอบวัน  ผู้เป็นมุสลิมจะต้องทำละหมาดวันละ ๕ เวลา คือ

                ๑.๑         เวลาย่ำรุ่ง               เรียกว่า   ละหมาด ซุบหฺ     ปฏิบัติ ๒ ร็อกอะฮ์

                ๑.๒        เวลากลางวัน        เรียกว่า   ละหมาด ดุฮฺริอฺ    ปฏิบัติ ๔ ร็อกอะฮ์

                ๑.๓        เวลาเย็น                 เรียกว่า   ละหมาด อะซัร    ปฏิบัติ ๔ ร็อกอะฮ์

                ๑.๔        เวลาพลบค่ำ          เรียกว่า   ละหมาด มัฆริบ   ปฏิบัติ ๓ ร็อกอะฮ์

                ๑.๕        เวลากลางคืน        เรียกว่า   ละหมาด อิชาอ์    ปฏิบัติ ๔ ร็อกอะฮ์

                                ๒.)         ละหมาดรอบสัปดาห์  คือ การละหมาดร่วมกันในวันศุกร์ ณ มัสยิดสถาน จำนวน ๒ ร็อกอะฮ์

                                ๓.)          ละหมาดรอบปี  ในรอบปีหนึ่งให้ทุกคนมาปฏิบัติการละหมาด ณ มัสยิดหรือสถานชุมนุม มี ๒ ครั้ง คือ

                ๓.๑        ละหมาดเมื่อสิ้นเดือนถือศีลอด (อีดุลพิฏร์) เรียกว่า “วันออกบวช”  จำนวน ๒ ร็อกอะฮ์

                ๓.๒       ละหมาดในวันเชือดสัตว์พลีทาน เนื่องในเทศกาลฮัจญ์ (อีดุลอัฏฮา) เรียกว่า “วันออกฮัจญ์”  จำนวน ๒ ร็อกอะฮ์

                                ๔.)          ละหมาดตามเหตุการณ์  เมื่อเกิดเหตุการณ์บางประการให้ละหมาดด้วย เช่น

                ๔.๑        ทำละหมาดขอพรแก่ผู้ตายก่อนนำไปฝัง เรียกว่า “ละหมาดญะนาซะฮ์”

                ๔.๒       ทำละหมาดขอฝนในยามแห้งแล้ง เรียกว่า “ละหมาดอิสติสกออ์”

                ๔.๓       ทำละหมาดในกลางคืนของเดือนถือศีลอดจำนวน ๒๐ ร็อกอะฮ์ เรียกว่า “ละหมาดตะรอวีห์”

๔.๔       ทำละหมาดระลึกถึงพระเจ้า เมื่อเกิดผิดปกติทางธรรมชาติ คือ

๔.๔.๑   เมื่อเกิดจันทรุปราคา เรียกว่า “คูซูฟุลกอมัร”  จำนวน ๒ ร็อกอะฮ์

๔.๔.๒  เมื่อเกิดสุริยุปราคา เรียกว่า “กุซูฟุซซัมซิ”  จำนวน ๒ ร็อกอะฮ์

                ๔.๕       ทำละหมาดขอต่อพระเจ้า เพื่อให้พระเจ้าชี้ทางเลือกในการประกอบการงานที่ตัวเองไม่สามารถตัดสินใจได้ เรียกว่า ละหมาด “อิสติคงเราะย์”  จำนวน ๒ ร็อกอะฮ์

 

                                ขั้นตอนการละหมาด

การละหมาดประกอบด้วยหน่วยย่อย เรียกว่า ร็อกอะฮ์ การละหมาดในโอกาสต่าง ๆ มีจำนวนร็อกอะห์ต่างกันไป เช่น การละหมาดประจำวันในเวลากลางคืน มี ๔ ร็อกอะฮ์ และการละหมาดประจำสัปดาห์ ในวันศุกร์ มี ๒ ร็อกอะฮ์ เป็นต้น

การละหมาด ๑  ร็อกอะหฺ  ประกอบด้วย

  1. มีเจตนาแน่วแน่ในการละหมาด

๒.) ยกมือระดับบ่า กล่าวตักบีร อัลลอฮูกักบัรซึ่งเป็นการสดุดีพระอัลลอหฺแล้วยกมือมากอดอก (ตามทัศนะซุนนีย์) หรือปล่อยมือลง (ตามทัศนะชีอะหฺ และซุนนีย์สำนักมาลิกีย์)

๓.) ยืนตรง อ่านอัลกุรอาน ซูเราะหฺอัลฟาติฮะหฺ และบางบทตามต้องการ

๔.) ก้มลง สองมือจับเข่า ศีรษะอยู่ในแนวตรงกับสันหลัง กล่าวว่า "ซุบฮานะ ร่อบบิยัลอะซีซิ              วะบิฮัมดิหฺ" อย่างน้อย 3 ครั้ง

๕.) ยืนตรง กล่าว "สะมิอัลลอหุ ลิมัน ฮะมิดะหฺ"

๖.)  ก้มกราบให้หน้าผากและจมูกจรดพื้น มือวางบนพื้น ให้ปลายนิ้วสัมผัสพื้น หัวเข่าจรดพื้น กล่าวว่า "ซุบฮานะ รอบบิยัล อะอฺลา วะบิฮัมดิฮฺ" อย่างน้อย 3 ครั้ง

๗.) อ่านบทขอพร

๘.) ก้มกราบครั้งที่ 2

 

ฟังบทสวดอัลกุรอาน

       

ชื่อเวปไซด์

รายละเอียด

http://www.islamhouse.com/p/217808

อัลกุรอาน อ่านแบบตัรตีล โดย มะห์มูด อัล-หุเศาะรีย์ ด้วยริวายะฮฺ อัด-ดูรีย์ จาก อบี อัมร์

http://www.islamhouse.com/p/217693

อัลกุรอาน อ่านแบบตัรตีล โดย มะห์มูด อัล-หุเศาะรีย์ ด้วยริวายะฮฺ อัด-ดูรีย์ จาก อบี อัมร์

http://www.islamhouse.com/p/217463

อัลกุรอาน อ่านแบบตัรตีล โดย คอลิด อัล-ก็อห์ฏอนีย์

http://www.islamhouse.com/p/217348

อัลกุรอาน อ่านแบบตัรตีล โดย อับดุลลอฮฺ บัศฟัร พร้อมแปลความหมายภาษาอังกฤษ

http://www.islamhouse.com/p/217233

อัลกุรอาน แบบตัรตีลโดยอับดุลบาสิฏ อับดุศเศาะมัด ริวายะฮฺวะรัช จากนาฟิอฺ อัล-มะดะนีย์



ดาวน์โหลดเอกสาร

แหล่งข้อมูล :     กองวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมกาย แคลิฟอร์เนีย. ศาสนศึกษา.                                                                                                                              http://www.geocities.com/Kanokrat_is47/Religion/Islam.htm

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%94

 

หมายเหตุ :           สำหรับรายละเอียดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่แหล่งข้อมูลและเวปไซด์การสวดอัลกุรอานข้างต้น

 


back>>