หลักสูตร

๑.  ชื่อหลักสูตร
      (ภาษาไทย) ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต  สาขาวิชาศาสนศึกษา (หลักสูตรนานาชาติ)
      (ภาษาอังกฤษ) Doctor of Philosophy Program in Religious Studies (International Program)

๒.  ชื่อปริญญา
      ชื่อภาษาไทย:-                     
            ชื่อเต็ม : ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ศาสนศึกษา)
            ชื่อย่อ : ปร.ด. (ศาสนศึกษา)
      ชื่อภาษาอังกฤษ:-
             ชื่อเต็ม : Doctor of Philosophy (Religious Studies)
             ชื่อย่อ :               Ph.D. (Religious Studies)

๓.  หน่วยงานรับผิดชอบ
      ๓.๑ วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
      ๓.๒  บัณฑิตวิทยาลัย  มหาวิทยาลัยมหิดล

ปรัชญาและวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
  ๑ ปรัชญาของหลักสูตร
            การศึกษาศาสนาที่วิทยาลัยศาสนศึกษา เน้นการประยุกต์ความเชื่อและการปฏิบัติทางศาสนาในสังคมร่วมสมัย และประเด็นทางจริยธรรมที่คนในสังคมกำลังเผชิญอยู่ วิทยาลัยฯจัดทำหลักสูตรดุษฎีบัณฑิตนี้มาเพื่อเป็นการส่งเสริมการศึกษาและวิจัยทางศาสนาเชิงวิชาการในปริบทของวัฒนธรรมต่างๆ ทั้งในประเทศและในโลกทั่วไป
 ๒  วัตถุประสงค์ของหลักสูตร 
            ๒.๑ ให้นักศึกษามีโอกาสได้เลือกศึกษาและวิจัยในสาขาวิชาเอกมากขึ้นคือ  พุทธศาสตร์ศึกษา  การเสวนาระหว่างศาสนา    ศาสนาและวิทยาศาสตร์   และศาสนาและจิตวิทยา
            ๒.๒ เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ลึกซึ้งและกว้างเกี่ยวกับศาสนา ความสัมพันธ์ระหว่างศาสนากับศาสตร์ต่างๆ เช่น สังคมศาสตร์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ พร้อมทั้งมองเห็นประโยชน์ของศาสนาในเรื่อง   สุขภาวะของมนุษย์และในการช่วยให้ชุมชนต่างวัฒนธรรมอยู่ด้วยกันด้วยความสงบสุข
            ๒.๓ การมีความรู้ดังกล่าวจะทำให้บัณฑิตเป็นอาจารย์และนักวิจัยที่มีความรู้ความสามารถสูง          พร้อมทั้งช่วยเสริมสร้างสันติภาพ ความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างศาสนิกชนต่างศาสนาที่จะทำให้โลกมีสภาพน่าอยู่มากขึ้น

คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา
๑. แบบ ๑ (การวิจัยอย่างเดียว)
      (๑) สำเร็จการศึกษาหลักสูตรปริญญาโท  สาขาวิชาที่เกี่ยวข้องโดยได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่ต่ำกว่า ๓.๕๐ จากมหาวิทยาลัยที่กระทรวงศึกษาธิการรับรอง
      (๒) มีความรู้ภาษาอังกฤษที่ได้มาตรฐานของหลักสูตร และได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยอย่างน้อย ๑ เรื่องในสาขาศาสนศึกษาหรือสาขาอื่นที่เกี่ยวข้องในวารสารที่ได้รับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น
๒. แบบ ๒ (ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาที่กำหนดและการวิจัย)
      (๑) สำเร็จการศึกษาหลักสูตรปริญญาตรี  สาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง โดยได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากสถาบันการศึกษาที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงศึกษาธิการ  หรือ
      (๒) สำเร็จการศึกษาหลักสูตรปริญญาโท สาขาวิชาที่เกี่ยวข้องโดยได้รับแต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า ๓.๕๐
๓. สำหรับผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในหลักสูตรปริญญาโท  สาขาวิชาศาสนศึกษา และมีความประสงค์จะเปลี่ยนสถานภาพเป็นนักศึกษาปริญญาเอก  สามารถดำเนินการได้แต่จะต้องศึกษารายวิชาของหลักสูตรปริญญาโทมาแล้วไม่น้อยกว่า ๒ ใน ๓ ของจำนวนหน่วยกิตรายวิชาในหมวดวิชาบังคับในโครงสร้าง          หลักสูตร  และต้องมีแต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่น้อยกว่า ๓.๕๐  โดยต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารหลักสูตรปริญญาโทที่กำลังศึกษา  และคณะกรรมการบริหารหลักสูตรปริญญาเอกที่ประสงค์เข้าศึกษา  และคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย
๔. ผู้ที่มีคุณสมบัตินอกเหนือจากเกณฑ์ข้อ ๗.๑-๗.๓  อาจได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้สมัครเข้าศึกษาตามดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหารหลักสูตร  และคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย

การคัดเลือกผู้เข้าศึกษา
      นอกจากผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่บัณฑิตวิทยาลัยกำหนดแล้ว เช่น ต้องสอบวิชาภาษาอังกฤษ TOEFL ได้ ตั้งแต่ ๕๕๐ คะแนนขึ้นไป หรือ IELTS  ได้ไม่ต่ำกว่าระดับ ๖.๐๐ ผู้สมัครต้องสอบข้อเขียนรายวิชาเฉพาะที่วิทยาลัยฯ กำหนด พร้อมทั้งต้องยื่นเอกสารต่างๆต่อไปนี้เพื่อประกอบการพิจารณาคัดเลือก
      ๑. ใบแสดงผลการเรียน (transcripts)
      ๒. จดหมายรับรองจำนวน ๓ ฉบับ (อย่างน้อยที่สุดต้องเป็นจดหมายจากอาจารย์เดิมของตนจำนวน ๒ ฉบับ)
      ๓. บทคัดย่อที่ระบุแผนการเรียนและการวิจัย พร้อมทั้งวัตถุประสงค์ในการเรียนและการวิจัยระดับดุษฎีบัณฑิต
      ๔. การสอบสัมภาษณ์ แบบตัวต่อตัว หรือทางโทรศัพท์
การพิจารณาคัดเลือกผู้เข้าศึกษาขั้นสุดท้ายให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย

ระบบการศึกษา
     ๑. ใช้ระบบการศึกษาแบบหน่วยกิตทวิภาค
       ๒. การคิดจำนวนหน่วยกิต
                ๑.รายวิชาภาคทฤษฎี ที่ใช้เวลาบรรยายหรืออภิปรายปัญหาไม่น้อยกว่า ๑๕  ชั่วโมงต่อภาคการศึกษาปกติ ให้มีค่าเท่ากับ ๑ หน่วยกิต
                  ๒. รายวิชาภาคปฏิบัติ  ที่ใช้เวลาฝึกไม่น้อยกว่า ๓๐ ชั่วโมง ต่อภาคการศึกษาปกติ ให้มีค่าเท่ากับ ๑ หน่วยกิต
                  ๓. วิทยานิพนธ์  ที่ใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า  ๔๕  ชั่วโมงต่อภาคการศึกษาปกติ ให้มีค่าเท่ากับ  ๑ หน่วยกิต
       ๓. ระยะเวลาการศึกษา
                  ๑. สำหรับผู้สำเร็จหลักสูตรปริญญาตรีแล้วเข้าศึกษาต่อหลักสูตรปริญญาเอก  ให้ใช้เวลาศึกษา
ไม่เกิน  ๘  ปีการศึกษา
                  ๒. สำหรับผู้สำเร็จหลักสูตรปริญญาโทแล้วเข้าศึกษาต่อหลักสูตรปริญญาเอก  ให้ใช้เวลาศึกษาไม่เกิน  ๖  ปีการศึกษา

      ๔. การลงทะเบียนเรียน
            ๑. นักศึกษาต้องลงทะเบียนเรียนเต็มเวลา
            ๒.จำนวนหน่วยกิตในการลงทะเบียนต้องไม่น้อยกว่า ๙ หน่วยกิต  แต่ไม่เกิน ๑๕ หน่วยกิต ในแต่ละภาคการศึกษาปกติ หรือตามคำแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษา
      ๕. การวัดผลและการสำเร็จการศึกษา
            ๑  การวัดผล การวัดผลเป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหิดลว่าด้วย  การศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา

            ๒ เกณฑ์การสำเร็จการศึกษา
                  ๒.๑  แบบ ๑  (การวิจัยอย่างเดียว)
                              (๑)    ต้องสอบผ่านภาษาอังกฤษโดยมีคะแนน TOEFL ตั้งแต่ ๕๕๐ คะแนนขึ้นไป หรือ IELTS ที่ระดับ ๖.๐ คะแนนขึ้นไป
                              (๒) ต้องสอบผ่านการสอบวัดคุณสมบัติ (Qualifying Examination)  
                              (๓) ต้องเสนอวิทยานิพนธ์ที่เสร็จสมบูรณ์ มีหน่วยกิตครบถ้วน (ดูข้อ ๒๐.๒) และผ่านการสอบปากเปล่าขั้นสุดท้ายตามข้อบังคับ  มหาวิทยาลัยมหิดลว่าด้วยการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
                              (๔) ต้องตีพิมพ์ผลงานวิจัยหรือได้รับการตอบรับลงพิมพ์ผลงานวิจัยที่เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ในวารสารทางวิชาการระดับนานาชาติที่มีผู้ประเมินอย่างน้อย ๑ ฉบับตามประกาศบัณฑิตวิทยาลัย เรื่อง หลักเกณฑ์การตีพิมพ์ผลงานวิจัยจากวิทยานิพนธ์เพื่อขอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก

                  ๒.๒ แบบ ๒ (ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาที่กำหนดและการวิจัย) ต้องศึกษารายวิชาต่าง ๆ ตามโครงสร้างหลักสูตร  คือ
                              (๑)   ผู้สำเร็จหลักสูตรปริญญาตรีแล้วเข้าศึกษาต่อหลักสูตรปริญญาเอก  ต้องศึกษารายวิชาไม่น้อยกว่า ๔๕ หน่วยกิต และทำวิทยานิพนธ์  ๔๘  หน่วยกิต  รวมจำนวนหน่วยกิตที่ต้องศึกษาตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่า ๑๐๒ หน่วยกิต และต้องได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรไม่ต่ำกว่า ๓.๐๐
                              (๒) ผู้สำเร็จหลักสูตรปริญญาโทแล้วเข้าศึกษาต่อหลักสูตรปริญญาเอก ต้องศึกษารายวิชาไม่น้อยกว่า ๒๗  หน่วยกิต และทำวิทยานิพนธ์  ๓๖  หน่วยกิต  รวมจำนวนหน่วยกิตที่ต้องศึกษาตลอดหลักสูตร  ไม่น้อยกว่า ๖๓ หน่วยกิต และต้องได้แต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรไม่ต่ำกว่า ๓.๐๐
                              (๓)   ต้องสอบผ่านภาษาอังกฤษโดยมีคะแนน TOEFL ตั้งแต่ ๕๕๐ คะแนนขึ้นไป หรือ IELTS ที่ระดับ ๖.๐ คะแนนขึ้นไป
                              (๔) ต้องสอบผ่านการสอบวัดคุณสมบัติ (Qualifying Examination)  
                              (๕) ต้องเสนอวิทยานิพนธ์ที่เสร็จสมบูรณ์ มีหน่วยกิตครบถ้วน (ดูข้อ ๒๐.๒)  และสอบปากเปล่าขั้นสุดท้ายตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหิดลว่าด้วยการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
                              (๖)   ต้องตีพิมพ์ผลงานวิจัยหรือได้รับการตอบรับลงพิมพ์ผลงานวิจัยที่เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ในวารสารทางวิชาการระดับนานาชาติที่มีผู้ประเมินอย่างน้อย ๑ ฉบับตามประกาศบัณฑิตวิทยาลัย เรื่อง หลักเกณฑ์การตีพิมพ์ผลงานวิจัยจากวิทยานิพนธ์เพื่อขอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก
                              (๗) นอกเหนือจากเกณฑ์ข้างต้นแล้ว นักศึกษาทุกคนต้องเป็นผู้ช่วยสอนอย่างน้อย ๑ รายวิชา และสอนอย่างน้อย ๑ รายวิชาก่อนสำเร็จการศึกษา


อาจารย์ประจำหลักสูตร
สังกัด:   วิทยาลัยศาสนศึกษา   
๑. ศ.ดร. คุณหญิง สุริยา รัตนกุล อ.บ. (ภาษาและวรรณคดีฝรั่งเศส) เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง,
Doctorat (Linguistics and South-East Asian Studies)
๒. รศ.ดร. พินิจ รัตนกุล อ.บ. (ภาษาและวรรณคดีอังกฤษ) เกียรตินิยม, Ph.D. (Philosophy)                  
๓.   อ.ดร.กะยอ ทัน B.A. (History), Ph.D. (Divinity/Religion)                       
๔.   อ.ดร. แมทธิว โคสุตะ B.A. (Honours), M.A. (Religious Studies), Ph.D. (Religious Studies)   
๕. อ.ดร. ไมลอส ฮูบิน่า M.A. (Philosophy)), Ph.D. (Comparative Religions)

อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร 
อาจารย์พิเศษ
๑. ศ. ดร. จิรโชค วีระสย  Ph.D. (Political Science) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
๒. ศ. ดร. จำลอง ดิษยวณิช M.D. (Psychiatry) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
๓. ศ. ดร. นิลส์ โฮม Ph.D. (Comparative Religion) มหาวิทยาลัยอาโบ อาคาเดมี ฟินแลนด์
๔. ศ. ดร. โรนัล นากาโซเน Ph.D. (Buddhist Studies) สถาบันบัณฑิตศึกษาทางศาสนศาสตร์เบอร์คเลย์ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
๕. ผศ. ดร. ประพจน์ อัศววิรุฬหการ Ph.D. (Buddhist Studies) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
๖. ดร. เชานา ชาปิโร Ph.D. (Clinical Psychology) มหาวิทยาลัยซานตาคลารา
สหรัฐอเมริกา
๗. ดร. เดวิด เพรสตี Ph.D. (Neurobiology) มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย
วิทยาเขตเบอร์คลีย์ สหรัฐอเมริกา
๘. ดร. แดเนียล ซีเกิล Ph.D. (Medical Education and Psychiatry) มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตลอสแอนเจลลิส สหรัฐอเมริกา
๙. ดร. พอล ฟุลตัน Ph.D. (Medical Education and Psychology)              สถาบันจิตภาวนาและจิตบำบัด และศูนย์ศึกษาพุทธศาสนา แมทซาชูเซ็ทซ์  สหรัฐอเมริกา
๑๐. ดร. สุวิญ รักสัตย์ Ph.D. (Buddhist Studies) มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
๑๑. พระ ดร. อนิล ศากยะ Ph.D. (Social Anthropology) มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
๑๒. ดร. อลัน วอลเลซ  Ph.D. (Tibetan Buddhism)  สถาบันการศึกษาเรื่องจิต เมืองซานตา บาร์บารา
สหรัฐอเมริกา

จำนวนนักศึกษา
๑.  แบบ ๑ (การวิจัยอย่างเดียว)
     ๑.๑ สำหรับผู้จบปริญญาโท

ปีการศึกษา	๒๕๕๑	๒๕๕๒	๒๕๕๓	๒๕๕๔	๒๕๕๕
จำนวนที่คาดว่าจะรับ	๕	๕	๕	๕	๕
จำนวนสะสม	-	๑๐	๑๕	๑๕	๑๕
จำนวนคาดว่าจะจบ	-	-	๕	๕	๕

๒.  แบบ ๒ (ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาที่กำหนดและทำวิจัย)
     ๒.๑ สำหรับผู้จบปริญญาตรี

ปีการศึกษา	๒๕๕๑	๒๕๕๒	๒๕๕๓	๒๕๕๔	๒๕๕๕
จำนวนที่คาดว่าจะรับ	๕	๕	๕	๕	๕
จำนวนสะสม	-	๑๐	๑๕	๒๐	๒๐
จำนวนคาดว่าจะจบ	-	-	-	๕	๕

     ๒.๒  สำหรับผู้จบปริญญาโท

ปีการศึกษา	๒๕๕๑	๒๕๕๒	๒๕๕๓	๒๕๕๔	๒๕๕๕
จำนวนที่คาดว่าจะรับ	๕	๕	๕	๕	๕
จำนวนสะสม	-	๑๐	๑๕	๑๕	๑๕
จำนวนคาดว่าจะจบ	-	-	-	๕	๕

สถานที่และอุปกรณ์การสอน
           ๑. ใช้สถานที่และอุปกรณ์การเรียนการสอนของวิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
           ๒. วิทยาลัยศาสนศึกษา มีอุปกรณ์และสื่อทางโสตทัศนศึกษาที่ทันสมัยและเครื่องอำนวยความสะดวกในการสอนอื่นๆ  รวมทั้งห้องเรียนจำนวน ๔ ห้องและเครื่องคอมพิวเตอร์มากกว่า ๒๐ เครื่องสำหรับนักศึกษา อุปกรณ์การสอนนี้ได้รับการตรวจสอบและปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยอยู่เป็นระยะๆ
           ๓.วิทยาลัยศาสนศึกษามีความร่วมมือด้านการวิจัยและการสอนกับมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาชั้นสูงเป็นเวลายาวนานทั้งในและต่างประเทศ อาทิเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฟินแลนด์ ญี่ปุ่น และในประเทศแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ห้องสมุด
            ห้องสมุดของวิทยาลัยศาสนศึกษา มีหนังสือ วารสาร และสิ่งตีพิมพ์ทางวิชาการเกี่ยวข้องกับศาสนา ปรัชญาและศาสตร์อื่นที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากกว่า ๑๒,๐๐๐ รายการ บรรณารักษ์ของห้องสมุดวิทยาลัย
ศาสนศึกษาช่วยสอนนักศึกษาให้รู้จักวิธีใช้อินเตอร์เนทสืบค้นข้อมูลจากห้องสมุดและองค์กรต่างๆทั่วโลก นอกจากนั้นนักศึกษายังสามารถใช้บริการที่มีในห้องสมุดของคณะวิชาต่างๆในทุกวิทยาเขตได้และโดยเหตุที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเชื่อมโยงกับระบบยืมระหว่างห้องสมุด ดังนั้นนักศึกษาจึงสามารถเข้าถึง       E-library ได้ โดยผ่านระบบอินเตอร์เนตของมหาวิทยาลัย

งบประมาณ
            ค่าใช้จ่ายในการผลิตบัณฑิตตลอดหลักสูตรประมาณคนละ  ๓๕๐,๐๐๐  บาทสำหรับผู้ที่ได้รับปริญญาโทที่มีความรู้ทางศาสนศึกษาพอเพียง และประมาณคนละ  ๕๖๐,๐๐๐  บาทสำหรับผู้ที่ได้รับปริญญาตรี

หมายเหตุ ค่าใช้จ่ายนี้เป็นการคำนวณเฉพาะค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมตลอดระยะเวลา ๓ ปี   เท่านั้น ไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าใช้จ่ายที่กล่าวมาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศและอัตราการแลกเปลี่ยนการเงินตราต่างประเทศ นอกจากนั้นอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาโทในสาขาอื่น

รายละเอียดหลักสูตร/แผนการศึกษา
            ๑   จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร   หลักสูตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาศาสนศึกษา  ที่วิทยาลัย   ศาสนศึกษาจัดขึ้นมีแผนการเรียน  ๒ แบบ ผู้สมัครจะต้องเลือกแผนการเรียนใดแผนการเรียนหนึ่ง ดังนี้
            ๑.๑          แบบ ๑    (การวิจัยอย่างเดียว)
            เป็นแผนการศึกษาที่เน้นการวิจัย โดยมีการทำวิทยานิพนธ์ที่ก่อให้เกิดความรู้ใหม่  นักศึกษาจะต้องสอบผ่านการสอบวัดคุณสมบัติและทำวิทยานิพนธ์ให้ได้ตามจำนวนหน่วยกิตที่กำหนดไว้  สำหรับ     ผู้ที่สำเร็จหลักสูตรปริญญาโทแล้วเข้าศึกษาต่อหลักสูตรปริญญาเอก  ให้ทำวิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า ๔๘ หน่วยกิต
         ๑.๒        แบบ ๒ (ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาที่กำหนดและการวิจัย)
            ในแผนการเรียนนี้ นักศึกษาจะต้องศึกษารายวิชาต่างๆ ตามที่กำหนดและต้องสอบผ่านการวัดคุณสมบัติและทำวิทยานิพนธ์ตามที่กำหนด
(๑) สำหรับผู้ที่สำเร็จหลักสูตรปริญญาตรีแล้วเข้าศึกษาต่อหลักสูตรปริญญาเอก  จำนวน
หน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๑๐๒ หน่วยกิต
(๒) สำหรับผู้ที่สำเร็จหลักสูตรปริญญาโทแล้วเข้าศึกษาต่อหลักสูตรปริญญาเอก  จำนวน
หน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๖๓ หน่วยกิต

            ๒  โครงสร้างหลักสูตร
จัดการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ  เรื่อง  เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา  พ.ศ. ๒๕๔๘  หลักสูตรปริญญาเอก  แบบ ๑ และแบบ ๒  ดังนี้

                                ๒.๑  แบบ ๑                         

           (๑)          สำหรับผู้จบปริญญาโท
                                วิทยานิพนธ์                       ๔๘        หน่วยกิต
                            รวม                  ๔๘        หน่วยกิต

                                ๒.๒  แบบ ๒                       

            (๑)          สำหรับผู้จบปริญญาตรี
                                หมวดวิชาแกน                                        ๒๔        หน่วยกิต
                                หมวดวิชาบังคับ [ตามวิชาเอก]               ๑๘         หน่วยกิต                              
                                หมวดวิชาเลือก  ไม่น้อยกว่า                    ๑๒         หน่วยกิต
                                วิทยานิพนธ์                                          ๔๘         หน่วยกิต
                              รวม                                ๑๐๒        หน่วยกิต

            (๒)         สำหรับผู้จบปริญญาโท
                                หมวดวิชาแกน                                         ๑๒         หน่วยกิต                              
                                หมวดวิชาบังคับ                                         ๙          หน่วยกิต                              
                                หมวดวิชาเลือก  ไม่น้อยกว่า                         ๖          หน่วยกิต
                                วิทยานิพนธ์                                               ๓๖         หน่วยกิต              
                              รวม                                    ๖๓         หน่วยกิต

                ๓   รายวิชาในหลักสูตร

               ๓.๑  หมวดวิชาแกน                                                                                                  

	หน่วยกิต (บรรยาย-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)
ศศศศ     ๕๐๐       วิธีวิจัยทางสังคมศาสตร ศศศศ     ๕๐๑      ศาสนาตะวันออก ศศศศ     ๕๐๒     ศาสนาตะวันตก   ศศศศ     ๕๐๓      ศาสนาท้องถิ่น ศศศศ   ๖๐๐       ทฤษฎีและวิธีการศึกษาศาสนา ศศศศ   ๖๐๑      สตรีในศาสนาสำคัญของโลก   ศศศศ   ๖๐๒     ศาสนาและมนุษยศาสตร์ ศศศศ   ๖๐๓      ตำนาน สัญลักษณ์และพิธีกรรม	๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖)

หมายเหตุ ในปีที่ ๑ นักศึกษาที่สำเร็จหลักสูตรปริญญาโททางศาสนศึกษาแล้ว ให้ลงทะเบียนเรียนรายวิชา ศศศศ ๖๐๐, ๖๐๑, ๖๐๒, ๖๐๓  ส่วนนักศึกษาที่สำเร็จหลักสูตรปริญญาตรีหรือปริญญาโทในสาขาวิชาอื่นต้อง ลงทะเบียนเรียนรายวิชาต่างๆ (หรือรายวิชาที่เทียบเท่า) ดังนี้ รายวิชา ศศศศ ๕๐๐, ๕๐๑, ๕๐๒, และ ๕๐๓ เพื่อปูพื้นฐานความรู้ ก่อนที่จะลงทะเบียนเรียนรายวิชาระดับดุษฎีบัณฑิต

                ๓.๒  หมวดวิชาบังคับ
               เปิดสอน ๔  วิชาเอก ดังนี้
               (๑) วิชาเอกพุทธศาสตร์ศึกษา
               (๒) วิชาเอกการเสวนาระหว่างศาสนา
               (๓) วิชาเอกศาสนาและวิทยาศาสตร์
               (๔) วิชาเอกศาสนาและจิตวิทยา

วิชาเอกพุทธศาสตร์ศึกษา
         นักศึกษาที่เรียนวิชาเอกพุทธศาสตร์ศึกษา  ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชา ศศศศ ๖๐๔, ๖๐๕ และรายวิชาเกี่ยวกับภาษาคัมภีร์ศาสนาพุทธ ๑ ภาษา (ศศศศ ๖๐๖ ภาษาบาลี) หรือ (ศศศศ ๖๐๗ ภาษาสันสกฤต) ส่วนนักศึกษาที่ที่สำเร็จหลักสูตรปริญญาปริญญาตรีหรือปริญญาโทในสาขาวิชาอื่น ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชา ศศศศ ๕๐๔, ๕๐๕ และ รายวิชาเกี่ยวกับภาษาคัมภีร์ศาสนาพุทธ ๑ ภาษา คือ (ศศศศ ๕๐๖ ภาษาบาลี) หรือ (ศศศศ ๕๐๗  ภาษาสันสกฤต) เพื่อปูพื้นฐานความรู้ก่อนที่จะลงทะเบียนเรียนรายวิชาระดับดุษฎีบัณฑิต

หน่วยกิต (บรรยาย-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)

ศศศศ    ๕๐๔     ประวัติพุทธศาสนาในประเทศไทยและการปฏิบัต ศศศศ    ๕๐๕     ประเด็นในสังคมพุทธร่วมสมัย ศศศศ    ๕๐๖      การอ่านคัมภีร์ภาษาบาลีระดับกลาง ศศศศ    ๕๐๗   การอ่านคัมภีร์ภาษาสันสกฤตระดับกลาง ศศศศ   ๖๐๔    ทฤษฎีและการปฏิบัติสมาธิของพุทธศาสนาในประเทศไทย ศศศศ   ๖๐๕    ปรัชญาและการปฏิบัติในพุทธศาสนามหายาน เถรวาทและวัชรยาน ศศศศ   ๖๐๖      การอ่านคัมภีร์ภาษาบาลีระดับสูง ศศศศ   ๖๐๗      การอ่านคัมภีร์ภาษาสันสกฤตระดับสูง

๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖)

วิชาเอกการเสวนาระหว่างศาสนา
         นักศึกษาที่เรียนวิชาเอกการเสวนาระหว่างศาสนาต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชา ศศศศ ๖๑๖, ๖๑๗ และ ๖๑๘ ส่วนนักศึกษาที่ได้รับปริญญาบัณฑิตหรือปริญญามหาบัณฑิตในสาขาวิชาอื่นมาก่อน ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาต่างๆ (หรือรายวิชาที่เทียบเท่า) ดังนี้ รายวิชา ศศศศ ๕๑๓, ๕๑๔ และ ๕๑๕ เพื่อปูพื้นฐานความรู้ก่อนที่จะลงทะเบียนเรียนรายวิชาระดับดุษฎีบัณฑิต

	หน่วยกิต (บรรยาย-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)
ศศศศ     ๕๑๓     หลักการและประวัติการเสวนาระหว่างศาสนา ศศศศ     ๕๑๔     วัฒนธรรมและศาสนา ศศศศ     ๕๑๕     ประเด็นทางจริยธรรมในการเสวนาระหว่างศาสนา ศศศศ    ๖๑๖      หลักการและประวัติของการเสวนาระหว่างศาสนา ศศศศ   ๖๑๗     ศาสนาและวัฒนธรรม ศศศศ   ๖๑๘     ประเด็นในการเสวนาระหว่างศาสนา	๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖)

วิชาเอกศาสนาและวิทยาศาสตร์
         นักศึกษาที่เรียนวิชาเอกศาสนาและวิทยาศาสตร์ ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชา ศศศศ ๖๒๒, ๖๒๓ และ ๖๒๔  ส่วนนักศึกษาที่ได้รับปริญญาบัณฑิตหรือปริญญามหาบัณฑิตในสาขาวิชาอื่นมาก่อน ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาต่างๆ (หรือรายวิชาที่เทียบเท่า) ดังนี้ รายวิชา ศศศศ ๕๒๒, ๕๒๓ และ ๕๒๔ เพื่อปูพื้นฐานความรู้ก่อนที่จะลงทะเบียนเรียนรายวิชาระดับดุษฎีบัณฑิต

	หน่วยกิต (บรรยาย-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)
ศศศศ     ๕๒๒    ศาสนาและวิทยาศาสตร์ ศศศศ     ๕๒๓    สุขภาพ การเยียวยารักษาและศาสนา ศศศศ     ๕๒๔    จิต กายและจิต-วิญญาณ:มุมมองทางวิทยาศาสตร์ ปรัชญา และศาสนา ศศศศ   ๖๒๒   ศาสนาและวิทยาศาสตร์ ศศศศ   ๖๒๓   มุมมองด้านชีววิทยาและศาสนาเกี่ยวกับวิวัฒนาการ และการสร้างโลก                ศศศศ   ๖๒๔   สุขภาพ การเยียวยา(รักษา) และศาสนา	๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖)

วิชาเอกศาสนาและจิตวิทยา
         นักศึกษาที่เรียนวิชาเอกศาสนาและจิตวิทยา ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชา ศศศศ ๖๓๓, ๖๓๔ และ ๖๓๕  ส่วนนักศึกษาที่ได้รับปริญญาบัณฑิตหรือปริญญามหาบัณฑิตในสาขาวิชาอื่นมาก่อน ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาต่างๆ (หรือรายวิชาที่เทียบเท่า)  ดังนี้ รายวิชา ศศศศ ๕๓๒, ๕๓๓ และ ๕๓๙ เพื่อปูพื้นฐานความรู้ก่อนที่จะลงทะเบียนเรียนรายวิชาระดับดุษฎีบัณฑิต

	หน่วยกิต (บรรยาย-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)
ศศศศ     ๕๓๒    พัฒนาการและการศึกษาทางจริยธรรม ศศศศ     ๕๓๓    ทฤษฎีและวิธีการสอน ศศศศ     ๕๓๙   ความรู้หลักมูลในวิธีการให้คำปรึกษา ศศศศ   ๖๓๓      ศาสนาและจิตวิทยา ศศศศ   ๖๓๔     ประสาทจิตวิทยา ศศศศ   ๖๓๕     วิธีการเยียวยารักษาเชิงเปรียบเทียบ: ศาสนาและจิตวิทยา	๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖)

                ๓.๓  หมวดวิชาเลือก

วิชาเอกพุทธศาสตร์ศึกษา
                นักศึกษาที่เรียนวิชาเอกพุทธศาสตร์ศึกษาต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาเลือกอย่างน้อย ๒ รายวิชา (๖ หน่วยกิต) จากรายวิชาดังต่อไปนี้ คือรายวิชา ศศศศ ๖๐๘, ๖๐๙, ๖๑๐,๖๑๑, ๖๑๒, ๖๑๓, ๖๑๔ และ ๖๑๕   ส่วนนักศึกษาที่ได้รับปริญญาบัณฑิตหรือปริญญามหาบัณฑิตในสาขาวิชาอื่นมาก่อน ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาต่างๆ (หรือรายวิชาที่เทียบเท่า) อย่างน้อย ๒ รายวิชา จากวิชาดังต่อไปนี้ รายวิชา ศศศศ ๕๐๘, ๕๐๙, ๕๑๐, ๕๑๑ และ ๕๑๒ เพื่อปูพื้นฐานความรู้ก่อนที่จะลงทะเบียนเรียนรายวิชาระดับดุษฎีบัณฑิต

หน่วยกิต (บรรยาย-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)

ศศศศ     ๕๐๘      ประวัติและพัฒนาการทางปรัชญาของพุทธศาสนาตะวันตก ศศศศ     ๕๐๙      พุทธศาสนาในเอเชียใต้ ศศศศ     ๕๑๐      พุทธศาสนาในเอเชียตะวันออก ศศศศ     ๕๑๑      พุทธศาสนาในประเทศทิเบต ศศศศ     ๕๑๒     พุทธศาสนาในเอเชียอาคเนย์ ศศศศ   ๖๐๘      ศาสนาพื้นบ้านในเอเชียอาคเนย์ที่นับถือพุทธศาสนา ศศศศ   ๖๐๙      แนวความคิดทางพุทธศาสนาเถรวาท ศศศศ   ๖๑๐      พุทธศาสนาและจิตวิทยาตะวันตก ศศศศ   ๖๑๑      การเปรียบเทียบวิธีการเยียวยารักษาเชิงพุทธและเชิงจิตวิทยาตะวันตก ศศศศ   ๖๑๒     จริยศาสตร์พุทธศาสนา ศศศศ   ๖๑๓     พุทธศาสนาและศิลปะ ศศศศ   ๖๑๔     สตรีในพุทธศาสนา ศศศศ   ๖๑๕     อิทธิพลของศาสนาฮินดูที่มีต่อพุทธศาสนา ในเอเชียอาคเนย์ สมมน ๖๓๗        การอธิบายความหมายในคัมภีร์พุทธศาสนา และวิธีการศึกษาเชิงวิเคราะห์ สมมน ๖๕๙        ระบบวัดในพระพุทธศาสนา สมมน ๖๖๑         ประเพณีความเชื่อเรื่องพระธาตุของชาวพุทธ  สมมน ๖๖๔        ความเคลื่อนไหวใหม่ในพระพุทธศาสนาเถรวาท

๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖)

วิชาเอกการเสวนาระหว่างศาสนา
                นักศึกษาที่เรียนวิชาเอกการเสวนาระหว่างศาสนา ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาเลือก    อย่างน้อย ๒ รายวิชา (๖ หน่วยกิต) จากรายวิชาดังต่อไปนี้ คือรายวิชา ศศศศ ๖๑๙, ๖๒๐, และ ๖๒๑  ส่วนนักศึกษาที่ได้รับปริญญาบัณฑิตหรือปริญญามหาบัณฑิตในสาขาวิชาอื่นมาก่อน ต้องลงทะเบียนเรียน      รายวิชาต่างๆ (หรือรายวิชาที่เทียบเท่า)  อย่างน้อย ๒ รายวิชาจากวิชาดังต่อไปนี้ รายวิชา ศศศศ ๕๑๖, ๕๑๗, ๕๑๘, ๕๑๙, ๕๒๐ และ ๕๒๑ เพื่อปูพื้นฐานความรู้ก่อนที่จะลงทะเบียนเรียนรายวิชาระดับดุษฎีบัณฑิต

หน่วยกิต (บรรยาย-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)

ศศศศ     ๕๑๖     วัฒนธรรมของเอเชียอาคเนย์ ศศศศ     ๕๑๗    ศาสนาและการจัดการองค์กรที่ไม่มุ่งผลกำไร ศศศศ   ๕๑๘     อิทธิพลทางวัฒนธรรมอินเดียและจีนและชุมชนผู้อพยพในเอเชียอาคเนย์ ศศศศ   ๕๑๙     โลกาภิวัตน์และศาสนา ศศศศ   ๕๒๐     เศรษฐศาสตร์และศาสนา ศศศศ   ๕๒๑     การเมืองและศาสนา ศศศศ   ๖๑๙      รัฐ จริยธรรมและศาสนา ศศศศ   ๖๒๐     ปรัชญาตะวันออกและตะวันตกเชิงเปรียบเทียบ ศศศศ   ๖๒๑     เศรษฐศาสตร์และศาสนา บฑสม   ๖๑๐       ทฤษฎีสิทธิมนุษยชน บฑสม   ๖๑๒      ทฤษฎีสันติภาพและความขัดแย้ง บฑสม  ๖๑๓      ความขัดแย้งและความมั่นคง

๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖)

วิชาเอกศาสนาและวิทยาศาสตร์
                นักศึกษาที่เรียนวิชาเอกศาสนาและวิทยาศาสตร์ ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาเลือก        อย่างน้อย ๒ รายวิชา (๖ หน่วยกิต) จากรายวิชาดังต่อไปนี้ คือรายวิชา ศศศศ ๖๒๕, ๖๒๖, ๖๒๗,๖๒๘, ๖๒๙, ๖๓๐, ๖๓๑ และ ๖๓๒ ส่วนนักศึกษาที่ได้รับปริญญาบัณฑิตหรือปริญญามหาบัณฑิตในสาขาวิชาอื่นมาก่อน ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาต่างๆ (หรือรายวิชาที่เทียบเท่า) อย่างน้อย ๒ รายวิชาจากวิชาดังต่อไปนี้ รายวิชา ศศศศ ๕๒๕, ๕๒๖, ๕๒๗, ๕๒๘, ๕๒๙, ๕๓๐ และ ๕๓๑ เพื่อปูพื้นฐานความรู้ก่อนที่จะลงทะเบียนเรียนรายวิชาระดับดุษฎีบัณฑิต

หน่วยกิต (บรรยาย-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)

ศศศศ     ๕๒๕    การแพทย์เปรียบเทียบ: การฝังเข็ม โยคะ และอายุรศาสตร ศศศศ     ๕๒๖     ปฏิสัมพันธ์ระหว่างการแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์ดั้งเดิม และการแพทย์แผนจีนในเอเชียอาคเนย์ ศศศศ     ๕๒๗    ปรัชญา ศาสนาและลัทธิดาร์วินนิยม ศศศศ     ๕๒๘    นักคิดคนสำคัญในศาสนาและวิทยาศาสตร์ ศศศศ     ๕๒๙     ศาสนาและวิทยาศาสตร์ในเอเชียอาคเนย์  ศศศศ     ๕๓๐     ผลกระทบของการรักษาพรหมจรรย์ต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกาย: ทัศนคติทางศาสนาและทางวิทยาศาสตร์ ศศศศ    ๕๓๑     จิตบำบัดและสมาธิ ศศศศ    ๖๒๕   ชีววิทยา พันธุกรรมศาสตร์และศาสนา ศศศศ   ๖๒๖     เคมี การใช้ยาทางจิตเวชและศาสนา ศศศศ   ๖๒๗   ปรัชญาวิทยาศาสตร์ ศศศศ   ๖๒๘   การเยียวยารักษาด้วยโยคะแบบฮินดู  ศศศศ   ๖๒๙     การเยียวยารักษาด้วยวิธีฝังเข็ม ศศศศ   ๖๓๐      การศึกษาสิ่งแวดล้อมในเชิงศาสนาและวิทยาศาสตร์ ศศศศ   ๖๓๑     ศาสนาและประเด็นทางสาธารณสุข ศศศศ   ๖๓๒   ความชรา ศาสนาและสังคมปัจจุบัน

๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖)

วิชาเอกศาสนาและจิตวิทยา
                นักศึกษาที่เรียนวิชาเอกศาสนาและจิตวิทยา ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาเลือกอย่างน้อย ๒ รายวิชา (๖ หน่วยกิต) จากรายวิชาดังต่อไปนี้ คือรายวิชา ศศศศ ๖๓๖, ๖๓๗, ๖๓๘, ๖๓๙, ๖๔๐, ๖๔๑, ๖๔๒, ๖๔๓ และ ๖๔๔ ส่วนนักศึกษาที่ได้รับปริญญาบัณฑิตหรือปริญญามหาบัณฑิตในสาขาวิชาอื่นมาก่อน ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาต่างๆ (หรือรายวิชาที่เทียบเท่า) อย่างน้อย ๒ รายวิชาจากวิชาดังต่อไปนี้ รายวิชา ศศศศ ๕๒๓, ๕๒๔, ๕๓๑, ๕๓๕, ๕๓๖ และ ๕๓๗ เพื่อปูพื้นฐานความรู้ก่อนที่จะลงทะเบียนเรียนรายวิชาระดับดุษฎีบัณฑิต

ศศศศ    ๕๒๓   สุขภาพ การเยียวยารักษาและศาสนา ศศศศ    ๕๒๔   จิต กายและจิต-วิญญาณ:มุมมองทางวิทยาศาสตร์ ปรัชญาและ ศาสนา ศศศศ    ๕๓๑    จิตบำบัดและสมาธิ	๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖
	หน่วยกิต (บรรยาย-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)
ศศศศ    ๕๓๕    จิตวิทยาเด็กเล็ก ศศศศ    ๕๓๖     จิตวิทยาวัยรุ่น ศศศศ    ๕๓๗   จิตวิทยาผิดปกติ ศศศศ    ๖๓๖      เพศวิถีในศาสนาและจิตวิทยา ศศศศ   ๖๓๗     จิตวิทยาเชิงพิชานและจิตวิทยาเชิงพฤติกรรม  ศศศศ   ๖๓๘     จิตวิทยาคลินิก ศศศศ   ๖๓๙     จิตพยาธิวิทยา ศศศศ   ๖๔๐      ความตายและสภาวะใกล้ตาย ศศศศ   ๖๔๑     ความคิดทางศาสนาและจิตวิทยาเกี่ยวกับภาวะวิกลจริต และความรับผิดชอบทางสังคม ศศศศ   ๖๔๒   การเปลี่ยนศาสนาและการสอนให้เปลี่ยนศาสนา ศศศศ   ๖๔๓     ลัทธิอนุรักษ์นิยมในศาสนา ความรุนแรงและความไม่รุนแรง ศศศศ   ๖๔๔     จิตวิทยาของอคติและสเตริโอไทพ์	๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖) ๓ (๓-๐-๖)

                 ๓.๔  วิทยานิพนธ์  

ศศศศ     ๖๙๙       วิทยานิพนธ์                                                                                   ๔๘/๓๖(๐-๑๔๔/๑๐๘-๐)

                ๓.๕  โครงการวิจัยของหลักสูตร
                หลักสูตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาศาสนศึกษา นี้เน้นให้นักศึกษามีโครงการวิจัยที่สร้างองค์ความรู้ใหม่ในสาขาวิชาที่เกี่ยวกับศาสนศึกษาตามความสนใจของนักศึกษา งานวิจัยอาจจะพัฒนาเป็นวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาได้ อนึ่งโครงการวิจัยในศาสตร์นี้มักจะต้องมีการออกภาคสนามด้วย โครงการวิจัยดังกล่าวจะช่วยพัฒนานักศึกษาให้สามารถดำเนินการวิจัยได้อย่างเชี่ยวชาญและสร้างสรรค์

         ๔   ความหมายของรหัสวิชา
                                ตัวอักษร  ๔  หลักมีความหมาย  ดังนี้
                                ตัวอักษร   ๒  หลักแรก เป็นอักษรย่อของคณะที่รับผิดชอบจัดการเรียนการสอน      
ศศ         หมายถึง     วิทยาลัยศาสนศึกษา
สม       หมายถึง     คณะสังคมและมนุษยศาสตร์
บฑ       หมายถึง     บัณฑิตวิทยาลัย
                                ตัวอักษร  ๒  หลักต่อมา  เป็นอักษรย่อของสาขาวิชา/ภาควิชาที่รับผิดชอบจัดการเรียนการสอน
ศศ        หมายถึง    สาขาวิชาศาสนศึกษา
มน       หมายถึง    ภาควิชามนุษยศาสตร์
สม       หมายถึง    โครงการจัดตั้งสำนักงานสิทธิมนุษยชนศึกษาและการพัฒนาสังคม
                                ตัวเลข  ๓  หลัก  คือ  5XX  และ  6XX  แสดงวิชาเรียนในระดับบัณฑิตศึกษา

         ๕  แผนการศึกษา
          ๕.๑      แบบ ๑

ชั้นปีที่	ภาคเรียนที่  ๑	ภาคเรียนที่  ๒
๑	การเตรียมการสอบวัดคุณสมบัติและโครงการวิจัย	การเตรียมการสอบวัดคุณสมบัติและโครงการวิจัย
	รวม   - หน่วยกิต	รวม   - หน่วยกิต
๒	ศศศศ ๖๙๙ วิทยานิพนธ์     ๑๒ (๐-๓๖-๐)	ศศศศ ๖๙๙ วิทยานิพนธ์      ๑๒ (๐-๓๖-๐)
	รวม   ๑๒ หน่วยกิต	รวม   ๑๒ หน่วยกิต
๓	ศศศศ ๖๙๙ วิทยานิพนธ์      ๑๒ (๐-๓๖-๐)	ศศศศ ๖๙๙ วิทยานิพนธ์    ๑๒ (๐-๓๖-๐)
	รวม   ๑๒ หน่วยกิต	รวม   ๑๒ หน่วยกิต

            ๕.๒ แบบ ๒

สำหรับผู้ที่จบปริญญาตรี

ชั้นปีที่	ภาคเรียนที่  ๑	ภาคเรียนที่  ๒
๑	ศศศศ ๕๐๐ วิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์            ๓(๓-๐-๖) ศศศศ ๕๐๑ ศาสนาตะวันออก                       ๓(๓-๐-๖) วิชาบังคับ (วิชาเอก) ๑ รายวิชา (๕XX)         ๓(๓-๐-๖) วิชาบังคับ (วิชาเอก) ๑ รายวิชา (๕XX)         ๓(๓-๐-๖)	ศศศศ ๕๐๒ ศาสนาตะวันตก                  ๓(๓-๐-๖) ศศศศ ๕๐๓ ศาสนาท้องถิ่น                    ๓(๓-๐-๖) วิชาบังคับ (วิชาเอก) ๑ รายวิชา (๕XX)   ๓(๓-๐-๖) วิชาเลือก ๑ รายวิชา  (๕XX)                    ๓(๓-๐-๖)
	รวม   ๑๒ หน่วยกิต	รวม   ๑๒ หน่วยกิต
๒	ศศศศ ๖๐๐ ทฤษฎีและวิธีการศึกษาศาสนา   ๓(๓-๐-๖) ศศศศ ๖๐๑ สตรีในศาสนาสำคัญของโลก     ๓(๓-๐-๖) วิชาบังคับ (วิชาเอก) ๑ รายวิชา (๖XX)         ๓(๓-๐-๖) วิชาเลือก ๑ รายวิชา  (๕XX)                         ๓(๓-๐-๖) หมายเหตุ นักศึกษาที่ลงเรียนวิชาเอกที่ ๑ ด้านพุทธศาสตร์ศึกษาต้องเรียนรายวิชาการอ่านคัมภีร์ระดับสูง และสอบผ่านภายในปีการศึกษาที่ ๑ หรือภาคการศึกษาที่ ๑ ในปีการศึกษาที่ ๒	ศศศศ ๖๐๒ ศาสนาและมนุษยศาสตร์  ๓(๓-๐-๖) ศศศศ ๖๐๓ ตำนาน สัญลักษณ์และพิธีกรรม                                                                                                    ๓(๓-๐-๖) วิชาบังคับ (วิชาเอก) ๑ รายวิชา (๖XX)    ๓(๓-๐-๖)
	รวม   ๑๒ หน่วยกิต	รวม   ๙ หน่วยกิต
๓	สอบวัดคุณสมบัติ เลือกเรียน วิชาบังคับ (วิชาเอก) ๑ รายวิชา (๖XX)         ๓(๓-๐-๖) วิชาเลือก ๑  รายวิชา   (๖XX)                       ๓ (๓-๐-๖) ศศศศ ๖๙๙ วิทยานิพนธ์                            ๙ (๐-๒๗-๐)	เลือกเรียน วิชาเลือก ๑  รายวิชา (๖XX)                   ๓ (๓-๐-๖) ศศศศ ๖๙๙ วิทยานิพนธ์                   ๑๒ (๐-๓๖-๐)
	รวม   ๑๕ หน่วยกิต	รวม   ๑๕ หน่วยกิต
๔	ศศศศ ๖๙๙ วิทยานิพนธ์                         ๑๕ (๐-๔๕-๐)	ศศศศ ๖๙๙ วิทยานิพนธ์                   ๑๒ (๐-๓๖-๐)
	รวม   ๑๕ หน่วยกิต	รวม  ๑๒  หน่วยกิต

สำหรับผู้ที่จบปริญญาโท

ชั้นปีที่	ภาคเรียนที่  ๑	ภาคเรียนที่  ๒
๑	ศศศศ ๖๐๐ ทฤษฎีและวิธีการศึกษาศาสนา   ๓(๓-๐-๖) ศศศศ ๖๐๑   สตรีในศาสนาสำคัญของโลก   ๓(๓-๐-๖) วิชาบังคับ (วิชาเอก) ๑ รายวิชา                      ๓(๓-๐-๖) หมายเหตุ นักศึกษาที่ลงเรียนวิชาเอกที่ ๑ ด้านพุทธศาสนศึกษาต้องเรียนรายวิชาการอ่านคัมภีร์ระดับสูงและสอบผ่านภายในปีการศึกษาที่ ๑ หรือภาคการศึกษาที่ ๑ ในปีการศึกษาที่ ๒	ศศศศ ๖๐๒ ศาสนาและมนุษยศาสตร์     ๓(๓-๐-๖) ศศศศ ๖๐๓ ตำนาน สัญลักษณ์และพิธีกรรม                                                                                                        ๓(๓-๐-๖) วิชาบังคับ (วิชาเอก) ๑ รายวิชา                ๓(๓-๐-๖)
	รวม   ๙ หน่วยกิต	รวม   ๙ หน่วยกิต
๒	สอบวัดคุณสมบัติ เลือกเรียน วิชาบังคับ (วิชาเอก) ๑ รายวิชา                      ๓(๓-๐-๖)วิชาเลือก ๑  รายวิชา                                      ๓(๓-๐-๖) ศศศศ ๖๙๙ วิทยานิพนธ์                             ๖ (๐-๑๘-๐)	วิชาเลือก ๑  รายวิชา                                ๓(๓-๐-๖) ศศศศ ๖๙๙ วิทยานิพนธ์                     ๙ (๐-๒๗-๐)
	รวม   ๑๒ หน่วยกิต	รวม   ๑๒ หน่วยกิต
๓	ศศศศ ๖๙๙ วิทยานิพนธ์                          ๑๒ (๐-๓๖-๐)	ศศศศ ๖๙๙ วิทยานิพนธ์                      ๙ (๐-๒๗-๐)
	รวม   ๑๒ หน่วยกิต	รวม  ๙  หน่วยกิต

        
การสอบวัดคุณสมบัติ
           ก่อนเริ่มงานวิทยานิพนธ์ นักศึกษาต้องผ่านการสอบวัดคุณสมบัติ (QE) ในภาคการศึกษาที่ ๑ ของปีการศึกษาที่ ๒ สำหรับผู้ที่ได้รับปริญญามหาบัณฑิตแล้ว และในภาคการศึกษาที่ ๑ ของปีการศึกษาที่ ๓ สำหรับผู้ที่ได้รับปริญญาบัณฑิต นักศึกษาที่สอบวัดคุณสมบัติไม่ผ่านในการสอบครั้งที่ ๑ จะได้รับอนุมัติให้สอบใหม่ในครั้งที่ ๒ ได้อีกเพียงครั้งเดียว การสอบวัดคุณสมบัติมีกำหนดปีการศึกษาละ ๒ ครั้งในเดือนมิถุนายนสำหรับภาคการศึกษาที่ ๑ และในเดือนพฤศจิกายนสำหรับภาคการศึกษาที่ ๒ การสอบวัดคุณสมบัติจะจัดโดยคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งโดยเฉพาะเพื่อการนี้

การประกันคุณภาพหลักสูตร
๑.  การบริหารหลักสูตร
          ๑.๑ อาจารย์ผู้สอนเตรียมประมวลรายวิชาที่แสดงวัตถุประสงค์และขอบเขตของรายวิชา
          ๑.๒ อาจารย์ผู้สอนจะได้รับการประเมินจากสำนักงานประกันคุณภาพการศึกษาแห่งชาติ ปีละ ๒ ครั้งโดยแบ่งเป็น ๒ ช่วงคือ มกราคม-มิถุนายน และกรกฎาคม-ธันวาคม
          ๑.๓ มีการจัดสัมมนาอาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาประจำปีเพื่อปรึกษากันเพื่อพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน วิธีการประเมินการเรียนการสอนและบรรยากาศในการเรียน
          ๑.๔ นักศึกษาจะเป็นผู้ประเมินรายวิชาและอาจารย์ผู้สอนเป็นประจำในแต่ละภาคการศึกษา การประเมินเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสำคัญของรายวิชา รวมทั้งเนื้อหา คุณภาพของอาจารย์ผู้สอนและวิธีการสอนของรายวิชานั้นๆ ทั้งคณะกรรมการหลักสูตรและอาจารย์ผู้สอนประจำรายวิชาจะได้รับทราบผลการประเมินในรายวิชานั้นๆเพื่อการพัฒนารายวิชาในอนาค
           ๑.๕ หลักสูตรสนับสนุนให้อาจารย์ผู้สอนพัฒนาทักษะการสอน เพิ่มพูนความรู้ ผลิตเอกสารประกอบการสอนและการวิจัย การผลิตตำรา การเขียนบทความและการเสนอผลงานวิชาการในที่ประชุมสัมมนาทั้งในระยะสั้นและระยะยาวตามแผนการพัฒนาคณาจารย์ของ ONESQA

 ๒. ทรัพยากรประกอบการเรียนการสอนและการวิจัย
          ๒.๑ วิทยาลัยศาสนศึกษามีห้องสมุดที่ทันสมัยซึ่งมีหนังสือและเอกสารทางวิชาการ
ด้านศาสนาและปรัชญามากกว่า ๑๒,๐๐๐ เล่ม
          ๒.๒ หลักสูตรนี้ได้จัดเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ให้นักศึกษาได้ใช้ อัตราส่วนของเครื่องคอมพิวเตอร์ ต่อจำนวนนักศึกษาคือ ๑: ๒
๓.   การสนับสนุนและการให้คำแนะนำนักศึกษา
          ๓.๑ สนับสนุนให้มีการศึกษาด้วยตนเองสำหรับนักศึกษาโดยใช้กลยุทธ์หลายรูปแบบ เช่นการใช้อินเตอร์เน็ต เมื่อมีทางเป็นไปได้ สนับสนุนทุนผู้ช่วยสอนหรือผู้ช่วยนักวิจัยให้กับนักศึกษาเพื่อเป็นการพัฒนาทักษะการสอนและการทำวิจัยสำหรับอาชีพในอนาคต
          ๓.๒ ให้กำลังใจและสนับสนุนนักศึกษาในการเสนอบทความวิชาการในที่ประชุมวิชาการหรือในการสัมมนา
          ๓.๓ จัดให้มีการสัมมนาทุกสัปดาห์เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงผลงานทาง
วิชาการต่อสาธารณชน

การเปิดสอนหลักสูตรนี้ของมหาวิทยาลัยอื่น
          หลักสูตรปริญญาดุษฎีบัณฑิตของวิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดลมีลักษณะเด่นเฉพาะที่มีวิชาเอกให้เลือกถึง ๔ วิชาคือ พุทธศาสตร์ศึกษา การเสวนาระหว่างศาสนา ศาสนาและวิทยาศาสตร์ ศาสนาและจิตวิทยา วิชาเอกเหล่านี้ช่วยเสริมซึ่งกันและกัน และมีเป้าหมายเดียวกันที่จะผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถสูงควบคู่ไปกับพื้นความรู้ทางศาสนา ในปัจจุบันยังไม่มีหลักสูตรประเภทนี้ในมหาวิทยาลัยอื่นในประเทศที่เปรียบเทียบได้กับหลักสูตรนี้ วิชาพุทธศาสตร์ศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษามีเปิดสอนในมหาวิทยาลัยบางแห่ง เช่น    มหามกุฏราชวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่วิชาพุทธศาสตร์ศึกษาของวิทยาลัยแตกต่างจากวิชาพุทธศาสตร์ศึกษาที่กล่าวมาในสาระของรายวิชาและวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
นอกจากนี้ หลักสูตรบัณฑิตศึกษาของวิทยาลัย ยังเน้นที่การศึกษาศาสนาอย่างกว้างขวางในฐานะเป็นประสบการณ์ของมนุษย์พร้อมทั้งศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างศาสนากับศาสตร์สมัยใหม่ทางโลกเช่น วิทยาศาสตร์สุขภาพ
อนึ่งหลักสูตรมีรายวิชาที่นำความรู้ในศาสนาต่างๆมาใช้อธิบายในหัวข้อเฉพาะเช่น สตรีในศาสนา ศาสนาและวัฒนธรรม และรายวิชาเกี่ยวกับศาสนาพื้นบ้านรวมอยู่ด้วย การมีรายวิชาประเภทนี้ทำให้        หลักสูตรดุษฎีบัณฑิตมีลักษณะโดยเฉพาะกว่าหลักสูตรวิชาศาสนาที่เปิดสอนตามมหาวิทยาลัยในประเทศและมีลักษณะคล้ายคลึงกับหลักสูตรในมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่มีชื่อเสียง

ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น
          วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดลได้สร้างความร่วมมือกับนักวิชาการระดับนานาชาติที่     ค้นคว้าวิจัยในศาสตร์ดังกล่าวในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยต่างๆ ทั้งนี้รวมถึงนักวิชาการที่สนใจในศาสนศึกษาทั้งในมหาวิทยาลัยมหิดล อาทิเช่นอาจารย์ในหลักสูตรพุทธศาสน์ศึกษา โดยคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ และอาจารย์ในหลักสูตรสิทธิมนุษยชนและสันติภาพศึกษา และอาจารย์ในมหาวิทยาลัยต่างๆในประเทศไทย ความร่วมมือดังกล่าวเป็นในรูปแบบของการสอน การวิจัย และการจัดสัมมนาและการประชุมเป็นสำคัญ ส่วนความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศนั้นมีการแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษารวมอยู่ด้วย

วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดลได้ทำสัญญาความร่วมมือกับสถาบันต่างประเทศดังนี้
          มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตซานตา บาบารา ประเทศสหรัฐอเมริกา
          มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตริเวอร์ไซด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
          มหาวิทยาลัยอาโบ อาคาเดมี ประเทศฟินแลนด์
          มหาวิทยาลัยเดอพอล มหานครชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
          สหพันธ์บัณฑิตเทววิทยา เมืองเบอร์คลีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
          สถาบันอิสลามศึกษา ซามาราง ประเทศอินโดนีเซีย
          วิทยาลัยลูเธอร์รันเทววิทยา มหานครชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
          ศูนย์พุทธศาสตร์ศึกษาแห่งออกซ์ฟอร์ด เมืองออกซ์ฟอร์ด ประเทศสหราชอาณาจักร
          ศูนย์ศึกษาศาสนาและวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ เมืองเบอร์คลีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
          ศูนย์ศึกษาจิตและจิตวิญญาณ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย เมืองฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
          ศูนย์ศึกษาศาสนาและวิทยาศาสตร์ มหานครชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา

การพัฒนาหลักสูตร
๑.  ดัชนีบ่งชี้มาตรฐานและคุณภาพการศึกษาสำหรับหลักสูตรนี้ คือ
          ๑.๑ หลักสูตรมีแผนการขยายการรับจำนวนนักศึกษาต่างชาติ เพื่อพัฒนาระดับการศึกษาของนักศึกษาไทย
          ๑.๒ หลักสูตรมีแผนการสร้างและสานความร่วมมือจากคณาจารย์ชาวต่างประเทศเพื่อทำให้สร้างนักศึกษาให้มีประสบการทางการศึกษาที่เข้มข้น
          ๑.๓ หลักสูตรมีแผนการพัฒนาความร่วมมือกับสถาบันอื่นในทวีปเอเชียและทั่วโลกที่มีแนวคิดในทางเดียวกัน
          ๑.๔ วิทยาลัยศาสนศึกษาได้ผลิตวารสารที่ได้รับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ (peer-reviewed) และมีแผนพัฒนาวารสารดังกล่าวให้ได้รับการยอมรับในสาขาวิชาศาสนศึกษา
๒.  กำหนดการประเมินหลักสูตรตามดัชนีบ่งชี้ข้างต้น ทุกๆ ระยะ ๕ ปี
๓.  กำหนดการประเมินครั้งแรก ปี ๒๕๕๕

รายละเอียดเกี่ยวกับอาจารย์ประจำหลักสูตร

๑.   ชื่อ             ศาสตราจารย์ ดร. คุณหญิงสุริยา รัตนกุล
      คุณวุฒิ
         -  อ.บ. (ภาษาและวรรณคดีฝรั่งเศส) เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง)  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
       -  Doctorat (Linguistics and South-East Asian Studies)
L’Université de Paris (Etudes Linguistique et Extrême Orientales)
      สังกัด   วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
งานวิจัยที่สนใจหรือมีความชำนาญการ
          - มานุษยวิทยาศาสนา
          - ศาสนาของชนพื้นเมือง
          - ตำนานและพิธีกรรม
          - สตรีและศาสนา

ผลงานการวิจัยและตำรา

1. Ratanakul, Suriya, Khunying. Western Civilization (Vol.I-III). College of Religious Studies, 2000-2002.
2. Ratanakul, Suriya, Khunying. Eastern Civilization (Vol.I-III). College of Religious Studies, 2002-2006.
3. Ratanakul, Suriya, Khunying. Rituals in Religions. College of Religious Studies, 2006.
4. Ratanakul, Suriya, Khunying. “Tai Peoples and their Languages: Preliminary Observation”, Journal of Religion and Culture. Vol.1. No.1. College of Religious Studies, 2007.
5. Ratanakul, Suriya, Khunying. “Karen spirits cult”, Journal of Religion and Culture. Vol.1. No.2. College of Religious Studies, 2007.

ภาระงานสอนในหลักสูตร

ศศศศ   ๖๐๑      สตรีในศาสนาสำคัญของโลก                                          ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๐๓      ตำนาน สัญลักษณ์และพิธีกรรม                                      ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๑๓     พุทธศาสนาและศิลปะ                                                    ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๑๗     ศาสนาและวัฒนธรรม                                                    ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๙๙      วิทยานิพนธ์                                                         ๔๘/๓๖ (๐-๑๔๔/๑๐๘-๐)

๒. ชื่อ          รองศาสตราจารย์ ดร. พินิจ  รัตนกุล 
คุณวุฒิ        - อ.บ. (ภาษาและวรรณคดีอังกฤษ) เกียรตินิยม     จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- Ph.D. (Philosophy)  Yale University
สังกัด   วิทยาลัยศาสนศึกษา  มหาวิทยาลัยมหิดล
งานวิจัยที่สนใจหรือมีความชำนาญการ
- จริยศาสตร์
- ศาสนาและวิทยาศาสตร์
- ศาสนาและวัฒนธรรม
- ศาสนาและจิตวิทยา

ผลงานการวิจัยและตำรา

1. Ratanakul, Pinit, “Buddhism–an Ally of Science?” in When Worlds Converge, ed. Clifford N. Mathews, Open Court, 2002.
2. Ratanaku, Pinit, Bioethics and Buddhism, College of Religious Studies, 2004.
3. Ratanakul, Pinit, “Human Cloning: Thai Buddhist Perspectives” in Cross-Cultural Issues in Bioethics: The Example of Human Cloning, ed. Heiner Roetz, Ruhr University Bachom, 2005.
4. Ratanakul, Pinit, “The Dynamics of Tradition and Change in Theravada Buddhism”, Journal of Religion and Culture, Vol. I. No.2, College of Religious Studies, 2007.
5. Stonington, Scott, and Pinit Ratanakul, “End-of-Life in Thailand and the Case for Local Difference”, Journal of Public Library of Science, November, 2006.

ภาระงานสอนในหลักสูตร
ศศศศ   ๖๑๒      จริยศาสตร์พุทธศาสนา                                                                ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๒๒    ศาสนาและวิทยาศาสตร์                                                                ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๒๔    สุขภาพ การเยียวยารักษาและศาสนา                                             ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๔๐       ความตายและสภาวะใกล้ตาย                                                      ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๙๙      วิทยานิพนธ์                                                                       ๔๘/๓๖ (๐-๑๔๔/๑๐๘-๐)

๓.  ชื่อ       อ.ดร.  กะยอ  ทัน
      คุณวุฒิ
       - B.A. (History) University of Rangoon
      - Ph.D. (Divinity/Religion) S.E.Asia Graduate School of Theology
สังกัด วิทยาลัยศาสนศึกษา  มหาวิทยาลัยมหิดล
งานวิจัยที่สนใจหรือมีความชำนาญการ
- ธรรมชาติและเอกภาพขององค์กรศาสนาคริสต์
- ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมชาติและความสัมพันธ์ระหว่างศาสนา

ผลงานการวิจัยและตำรา

1. Kyaw Than,U  “Towards a Common Future”  in  Asia-Africa

        Spirit and Struggle amidst Globalization ,ed. Josef Wityatmadja, Clearcut Publishing, China, 2005.

1. Kyaw Than,U “Revisiting Jesus’ Pedagogy as Teacher “ in CTC Bulletin, ed. Hope  Antone, Clearcut Publishing, China, 2004
2. Kyaw Than,U  “Building Communities of Peace for All” in CCA  Consultation report,Korea Hope Antone, Clearcut Publishing,China, 2003.
3. Kyaw Than,U “Days of Discovery and Days of Change” in Living in Oikoumene, ed. Hope Antone , Clearcut  Publishing, China, 2003.
4. Kyaw Than,U “Toward a Culture of Religious Diversity and Communal Harmony” in Currents , LSTC  Journal, Chicago, 1992.

ภาระงานสอนในหลักสูตร

ศศศศ   ๖๒๐      ปรัชญาตะวันออกและตะวันตกเชิงเปรียบเทียบ                      ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๔๒    การเปลี่ยนศาสนาและการสอนให้เปลี่ยนศาสนา                       ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๑๖       หลักการและประวัติความเป็นมาของการเสวนา
ระหว่างศาสนา                                                                                              ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๑๘      การเสวนาระหว่างศาสนา                                                     ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๙๙      วิทยานิพนธ์                                                                   ๔๘/๓๖ (๐-๑๔๔/๑๐๘-๐)

๔. ชื่อ             อ.ดร. แมทธิว  โคสุตะ
คุณวุฒิ - B.A (Honours.), University of Florida Gainesville
- M.A. (Religious Studies),Université du Québec
- Ph.D. (Religious Studies),Université du Québec
สังกัด วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
งานวิจัยที่สนใจหรือมีความชำนาญการ
- พุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท
- ประวัติศาสนา
- เอเชียใต้และเอเชียอาคเนย์
- ศาสนาและสงคราม
- จริยศาสตร์สงคราม
- โยคะ

ผลงานการวิจัยและตำรา

1. Kosuta, Matthew, “TYheravada Emptiness: the Abhidhammic Theory of Ajaan Sujin Boriharnwanaket”, Contemporary Buddhism. Vol.8, No.1, May 2007.
2. Kosuta, Matthew, ‘The Buddha, the Greatest Scientist in the World”, Religiologiques, Spring 2003.
3. Mathieu Boisvert with Matthew Kosuta, “Examinations; Theravadins”, Encyclopedia of Monasticism, Vol.1., pp. 461-462, 200.

ภาระงานสอนในหลักสูตร

ศศศศ   ๖๐๐       ทฤษฎีและวิธีการศึกษาศาสนา                                                           ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๐๓      ตำนาน สัญลักษณ์และพิธีกรรม                                                          ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๐๕      ปรัชญาและการปฏิบัติในพุทธศาสนามหายาน เถรวาทและวัชรยาน      ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๐๙      แนวความคิดทางพุทธศาสนาเถรวาท                                                 ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๑๒     จริยศาสตร์พุทธศาสนา                                                                       ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๑๕     อิทธิพลของศาสนาฮินดูที่มีต่อพุทธศาสนา                                            ๓(๓-๐-๖)                                               
ในเอเชียอาคเนย์
ศศศศ   ๖๑๗      ศาสนาและวัฒนธรรม                                                                      ๓(๓-๐-๖)                
ศศศศ   ๖๑๙      รัฐ จริยธรรมและศาสนา                                                                   ๓(๓-๐-๖)                
ศศศศ   ๖๒๘   การรักษาด้วยโยคะแบบฮินดู                                                                ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๔๐      ความตายและสภาวะใกล้ตาย                                                            ๓(๓-๐-๖)
ศศศศ   ๖๙๙      วิทยานิพนธ์                                                                      ๔๘/๓๖ (๐-๑๔๔/๑๐๘-๐)

๕. ชื่อ          อ.ดร. ไมลอส ฮูบิน่า
คุณวุฒิ
M.A.  (Philosophy), Comenius University in Bratislava (Slovak Republic
                Ph.D. (Comparative Religions), Comenius University in Bratislava (Slovak Republic)             

สังกัด   วิทยาลัยศาสนศึกษา  มหาวิทยาลัยมหิดล
งานวิจัยที่สนใจหรือมีความชำนาญการ
- พุทธศาสนาเถรวาท
- ศาสนาและการเมือง
- จิตในพุทธศาสนาและในศาสนาตะวันตก
- จิตวิทยาศาสนา
-  ปรัชญาศาสนา

ผลงานวิชาการที่เคยตีพิมพ์
   หนังสือ:
Consciousness Like the Ocean. Bratislava 2004
Articles and Studies (Selection)
Pratityasamutpada in Mulamadhyamakakarika. In: Hieron II./1997, pp.43-54.
An Interpretation of Mulamadhyamakakarika I. In: Studia Orientalia Slovaca 2/2003, pp.79-100.
A Well Defined WIndescribable”. In: Hieron VI.-VII./2001-2002, pp.34-45.
How to Die Correctly. Paths to Nibbana in Buddhist Theravada Tradition. In: Kovac.M., Kovacs. A. (eds.): The Roads to the Other-World, Bratislava 2005.
Wat, Sagha and King. Socio-Political Role of the Buddhist Order in Thailand. In:Slobodnik, M., Kovacs,A. (ed.): Political Power vs.Religious Authority in Asia, Bratislava 2006, pp.167-191.
Theravada Buddhism- an Incomplete Religion?, In: Hieron VIII.-IX./ 2003-2004