พิธีหรือเทศกาลในวัฒนธรรมญี่ปุ่นพิธีหรือเทศกาลในวัฒนธรรมญี่ปุ่นโดยส่วนมากมีพื้นฐานมาจากศาสนาชินโตและ พุทธศาสนา ซึ่งพิธีหรือเทศกาลที่สำคัญมีดังนี้ ๑.) วันปีใหม่ เมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ ชาวญี่ปุ่นจะรับประทานโมจิหรือซุปโมจิ และจะไปไหว้พระขอพรที่วัด หลังจากนั้น ก็จะนำต้นไม้ชื่อมัทซึมาวางไว้ที่หน้าบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัวและประดับด้วยไม้ไผ่ ซึ่งมีความหมายถึง ความซื่อตรงและซื่อสัตย์เหมือนลำไผ่ และความอ่อนน้อมแต่แข็งแรงเหมือนต้นไผ่ ซึ่งทนทานต่อสภาพอากาศ ๒.) วันผู้บรรลุนิติภาวะ (เซยินโนะหิ) วันผู้บรรลุนิติภาวะตรงกับวันจันทร์ที่ ๒ ของเดือนมกราคม ซึ่งชายหญิงชาวญี่ปุ่นที่มีอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ จะถือว่าเป็นผู้ใหญ่ โดยแต่ละอำเภอของญี่ปุ่นจะมีการจัดพิธีต่างๆ และให้ชายหญิงที่มีอายุครบ ๒๐ ปี มาเข้าร่วมกิจกรรม ในวันนี้ ผู้ชายญี่ปุ่นจะใส่ชุดสากลหรือชุดฮาโอริ ส่วนผู้หญิงญี่ปุ่นจะสวมใส่ชุดกิโมโน ๓.) พิธีโยนถั่ว (เซทซึบุน) พิธีโยนถั่วตรงกับวันที่ ๓ หรือ ๔ ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งในวันนี้ ผู้คนจะโปรยถั่วเหลืองคั่วให้ทั่วบริเวณในบ้านและนอกบ้าน เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายและโชคร้ายต่างๆ ให้หมดไป ๔.) เทศกาลตุ๊กตาหรือเทศกาลเด็กผู้หญิง (ฮินะมัตสึริ) เทศกาลนี้จัดขึ้นวันที่ ๓ ของเดือนมีนาคม เพื่อขอพรให้เด็กผู้หญิงเติบโตแข็งแรงและมีความสุข ในหลายครอบครัวที่มีลูกสาวเล็ก จะตั้งแสดงตุ๊กตาที่แต่งตัวในชุดข้าราชสำนักในสมัยโบราณวางเรียงรายบนชั้นพร้อมด้วยดอกท้อ และบูชาตุ๊กตาด้วยขนมปังกรอบที่ทำจากข้าวและอาหารอื่นๆ ๕.) เทศกาลวันเด็กผู้ชาย (วันเด็ก) เทศกาลนี้มีชื่อตามประเพณีนิยมว่า ทังโกะโนะเซกกุ ซึ่งตรงกับวันที่ ๕ พฤษภาคม เป็นวันเฉลิมฉลองสำหรับเด็กทุกคน อย่างไรก็ตาม ครอบครัวที่มีเด็กผู้ชายจะจัดพิธีพิเศษด้วยการจัดแสดงชุดเกราะจำลองพร้อมหมวกนักรบ และชักธงรูปปลาคราร์พ ธงปลาคาร์พเป็นสัญลักษณ์แห่งคำอธิฐานให้เด็กชายนั้นประสบความสำเร็จและเติบโตพร้อมด้วยความแข็งแรงและความมั่นใจ ๖.) เทศกาลแห่งดวงดาว (ทานาบาตะ) เทศกาลนี้ผสมผสานความเชื่อของญี่ปุ่นเข้ากับตำนานของจีนเกี่ยวกับดาวสองดวง คือ ดาวคนเลี้ยงวัว (อัลแทร์) และดาวคนทอผ้า (เวก้า) ที่อยู่คนละปลายฝั่งบนทางช้างเผือกจะโคจรมาพบกันปีละครั้งในวันที่ ๗ กรกฎาคม วันนี้ ผู้คนมักเขียนคำอธิฐานของตนลงบนแผ่นกระดาษห้าสีและติดไว้บนกิ่งไผ่ที่จัดตั้งไว้ในตำแหน่งโดดเด่น เพื่อให้คำอธิฐานนั้นเป็นจริงขึ้นมา ๗.) เทศกาลบง เทศกาลบงเป็นงานประเพณีทางศาสนาที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ กรกฎาคม หรือในช่วงกลางเดือนสิงหาคม เพื่อเป็นการอุทิศแก่ดวงวิญญาณของบรรพบุรุษ ในช่วงเวลานี้เชื่อกันว่า ดวงวิญญาณของบรรพบุรุษจะหวนกลับมาที่บ้าน จึงมีการจุดไฟต้อนรับไว้ที่ประตูบ้าน เพื่อนำทางให้ดวงวิญญาณกลับบ้าน และวางตะเกียงไว้ในบ้าน ทำความสะอาดหิ้งบูชา จัดเตรียมอาหารเซ่นไหว้หลายอย่าง และสวดมนต์ภาวนาเพื่อให้ดวงวิญญาณของบรรพบุรุษสงบสุข ในตอนท้ายของเทศกาลจะมีการจุดไฟที่ประตูบ้านอีกครั้งเพื่อส่งดวงวิญญาณของบรรพบุรุษกลับและนำเครื่องกราบไหว้บูชาไปลอยในแม่น้ำหรือทะเล ๘.) เทศกาล ๗ – ๕ – ๓ (ชิจิ – โกะ – ซัน) เทศกาลนี้ตรงกับวันที่ ๑๕ ของเดือนพฤศจิกายน เป็นวันที่พ่อแม่จะพาลูกชายอายุ ๓ และ ๕ ขวบ และลูกสาวอายุ ๓ และ ๗ ขวบ ไปไหว้ที่ศาลเจ้าใกล้บ้าน การที่เลือกอายุทั้งสามเลขนี้เพราะเชื่อกันว่าเลขคี่นั้นเป็นมงคล เด็กๆ จะได้รับขนมพิเศษที่เรียกว่า ฉิโตเซะอาเมะ นั่นก็คือ ขนมอมยิ้มสีแดงเหลืองซึ่งจะห่อไว้ในถุงที่มีรูปนกกระเรียนและเต่า ซึ่งญี่ปุ่นถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการมีอายุยืนยาว ฉะนั้น ขนมนี้จึงแทนคำอธิฐานเพื่อสุขภาพและการเจริญเติบโตของเด็กๆ ๙.) วันก่อนวันขึ้นปีใหม่ เมื่อใกล้เวลาเที่ยงคืนของวันที่ ๓๑ ของเดือนธันวาคม วัดวาอารามทั้งหลายทั่วประเทศจะเริ่มตีระฆังตามความเชื่อของศาสนาพุทธที่เชื่อว่ามนุษย์มีกิเลสทั้งหมด ๑๐๘ ข้อ ดังนั้น การตีระฆัง ๑๐๘ ครั้ง จึงเป็นวิธีไล่กิเลสแต่ละประการให้หมดไป นอกจากนี้ มีประเพณีรับประทานโซบะ ทำจากเมล็ดบัควีทในคืนก่อนวันขึ้นปีใหม่ด้วย เพื่ออธิฐานให้มีอายุยืนนานและสุขภาพสมบูรณ์ในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง การที่เลือกรับประทานโซบะ เพราะว่าเส้นโซบะยาวและยืดออกได้ แสดงถึงชีวิตที่มีความสุขและอายุยืนยาว แหล่งข้อมูล : http://student.nu.ac.th/jeab_pika1/japan/festival.html http://www.th.emb-japan.go.jp/th/japan/explorejp/page12-19.pdf
หมายเหตุ : สำหรับรายละเอียดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่แหล่งข้อมูลข้างต้น |