|
|
|---|
ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคทรงเยียวยาพระโรคาพาธด้วยโอสถ คือสมาบัติภาวนา เสด็จจากเมืองปาวาพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ตามมรรคาโดยลำดับ ขณะที่เสด็จพระพุทธดำเนินตามทางนั้น ให้บังเกิดกระหายน้ำเป็นกำลัง จึงเสด็จแวะเข้าพักยังร่มไม้ริมทาง พลางตรัสเรียกพระอานนท์ว่า “อานนท์ ตถาคตกระหายน้ำมาก เธอจงไปตักน้ำมาให้ตถาคตดื่มระงับความกระหายให้สงบ” เป็นครั้งแรกและเป็นครั้งเดียว ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเรียกขอน้ำเสวยในขณะเดินทางยังไม่ถึงที่พัก เนื่องด้วยพระองค์ทรงประชวรมาก ใกล้อวสานพระชนม์ ต้องเสวยทุกขเวทนาซึ่งเกิดแต่สังขาร สมดังกระแสพระโอวาทที่ตรัสว่า “สังขารเป็นมารทำลายความสงบสุข ไม่เลือกว่าสังขารของผู้ใดทั้งสิ้น” พระอานนท์ได้กราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เกวียนประมาณ ๕๐๐ เล่มเพิ่งข้ามแม่น้ำนี้ไป แม่น้ำนี้เป็นแม่น้ำเล็ก น้ำในแม่น้ำก็น้อย เมื่อล้อเกวียนมากด้วยกัน บดไปตลอดทุกเล่ม น้ำขุ่นนัก ไม่ควรจะเป็นน้ำเสวย ถัดนี้ไปไม่ไกลนัก แม่น้ำกกุธานทีมีน้ำจืดใสเย็น ทั้งมีท่ารื่นรมย์เชิญเสด็จพระผู้มีพระภาคไปยังแม่น้ำกกุธานทีโน้นเถิด ผิวะเสวยหรือจะสรงก็จะเย็นเป็นสุขสำราญ” “ไปเถอะ อานนท์” ทรงรับสั่ง “ไปนำน้ำในแม่น้ำนี้แหละมาให้ตถาคตดื่มบรรเทาความกระหาย” พระอานนท์ได้กราบทูลทัดทานถึง ๒ ครั้ง เมื่อได้สดับกระแสรับสั่งครั้งที่ ๓ พระเถรเจ้าก็อนุวัตรตามพระบัญชาทันที ด้วยได้สติรู้ทันในพระบารมีของพระสัมพุทธเจ้าว่า “อันธรรมดาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย จะดำรงคงพระวาจามั่นในสิ่งซึ่งหาสาเหตุมิได้ เป็นไม่มี” จึงรีบนำบาตรเดินตรงไปยังแม่น้ำนั้น ครั้นเข้าไปใกล้แม่น้ำนั้นก็พลันได้ปีติโสมนัส ด้วยพุทธานุภาพของพระพุทธเจ้ามาบันดาลน้ำในแม่น้ำซึ่งขุ่นข้นให้กลับกลายเป็นน้ำใสสะอาดปราศจากมลทิน เมื่อพระอานนท์ได้เห็นเช่นนั้นก็เกิดอัศจรรย์ใจ พิศวงในอานุภาพของพระผู้มีพระภาคเจ้า ดำริว่า “อานุภาพอันใหญ่หลวงของพระพุทธเจ้าเห็นปานนี้เป็นความอัศจรรย์ ไม่เคยมีมาในกาลก่อน” พระเถรเจ้าได้ลงไปตักน้ำด้วยโสมนัส แล้วเดินมาด้วยความบันเทิง น้อมเข้าไปถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทรงเสวยตามพระพุทธประสงค์แล้วได้กราบทูลถึงเหตุอัศจรรย์ที่ได้ประสบมานั้น ครั้งนั้น ปุกกุสะบุตรแห่งมัลลกษัตริย์ ผู้เป็นสาวกของท่านอาฬารดาบส กาลามโคตร เดินทางจากเมืองกุสินารา เพื่อจะไปยังปาวานครโดยทางนั้น ครั้นมาถึงที่นั้นเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ร่มไม้ใหญ่ริมทาง จึงเข้าไปเฝ้าถวายบังคม แล้วนั่ง ณ ที่ควร พระบรมศาสดาได้ทรงแสดงสันติวิหารธรรมโปรด ปุกกุสะได้สดับแล้วเกิดความเลื่อมใส ได้น้อมคู่ผ้าสิงคิวรรณอันมีเนื้อละเอียด มีสีดังทองสิงคี งามประณีตมีค่ามาก ถวายพระผู้มีพระภาค พร้อมด้วยกราบทูล “ขอพระผู้มีพระภาคได้ทรงอนุเคราะห์ รับคู่ผ้าสิงคิวรรณนี้ เพื่อประโยชน์สุขแก่ข้าพระองค์สิ้นกาลนานเถิด” “ปุกกุสะ ถ้าเช่นนั้น เธอจงคลุมกายตถาคตเพียงผืนเดียว อีกผืนหนึ่งจงให้อานนท์เถิด” ปุกกุสะได้น้อมผ้าเข้าถวายเป็นพุทธบริโภคผืนหนึ่ง ถวายพระอานนท์เถระผืนหนึ่ง ตามพระพุทธบัญชา พระบรมศาสดาได้ทรงแสดงธรรมีกถาให้ปุกกุสะมัลลบุตร เบิกบานรื่นเริงในกุศลจริยาตามสมควร แล้วปุกกุสะได้อภิวาททูลลาไป คัดมาจาก พุทธประวัติทัศนศึกษา โดย พระธรรมโกศาจารย์ (ชอบ อนุจารี) http://dharma-gateway.com/buddha/buddha-main-page.htm |