พระเทวทัตให้ปล่อยช้างนาฬาคีรี ช้างพระที่นั่งกำลังซับมันดุร้าย
เพื่อให้ทำอันตรายพระชนม์ชีพพระบรมศาสดา ในเวลาเสด็จออกบิณฑบาต
แต่ช้างนาฬาคีรีก็ไม่ทำร้ายพระองค์ ครั้งนั้น
พระอานนท์เถระเจ้า มากด้วยความกตัญญู สละชีวิตถวายเป็นพุทธบูชา
โดยกลัวว่าช้างนาฬาคีรีจะทำร้ายพระผู้มีพระภาคเจ้า
จึงได้ออกไปยืนกั้นหน้าช้างนาฬาคีรีไว้ เพื่อให้ช้างทำลายชีวิตท่าน
ปรารถนาจะป้องกันพระบรมศาสดา
ในทันใดนั้น พระบรมศาสดาได้ทรงช้างนาฬาคีรีให้หมดพยศอันร้ายกาจ
หมอบยอบกายเข้าไปถวายบังคมพระบรมศาสดา ฟังพระบรมศาสดาตรัสสอน
แล้วเดินกลับเข้าสู่โรงช้าง ด้วยอาการอันสงบ ปรากฏแก่มหาชนที่ประชุมกันดูอยู่เป็นอันมาก
เป็นมหัศจรรย์
ครั้นพระผู้มีพระภาค พาพระสงฆ์เสด็จกลับยังพระเวฬุวันวิหาร
มหาชนก็พากันแซ่ซ้องร้องสาธุการ ติดตามไปยังพระเวฬุวันวิหาร
จัดมหาทานถวาย
ครั้นเสร็จภัตตกิจแล้ว พระบรมศาสดาได้ตรัสอนุปุพพิกกถา
อนุโมทนาเมื่อได้ทรงสดับคำพรรณนาถึงคุณของพระอานนท์เถระเจ้า
ที่ได้สละชีวิตออกไปยืนกั้นช้างนาฬาคีรี สมเด็จพระชินสีห์
จึงประทานพระธรรมเทศนามหังสชาดก และจุลลหังสชาดก
ยกคุณของพระอานนท์เถระเจ้าที่ได้สละชีวิตถวายพระองค์
แม้ในอดีตชาติ
แท้จริง การที่พระเทวทัตเกิดมีจิตบาปหยาบช้าลามก
ทำร้ายพระบรมศาสดามาก่อนนั้นก็ดี แนะนำให้พระเจ้าอชาตศัตรู
ปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสารก็ดี มิสู้จะปรากฏแพร่หลายนัก
ต่อเมื่อปล่อยช้างนาฬาคีรี ให้ประทุษร้ายพระบรมศาสดาครั้งนั้นแล้ว
ความชั่วร้ายแต่หนหลังของพระเทวทัตก็ปรากฏทั่วไป
ชาวพระนครราชคฤห์พากันโพนทะนากันโกลาหลว่า พระเทวทัตคบคิดด้วยพระเจ้าอชาติศัตรูปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสาร
ทำร้ายพระสัมมาพุทธเจ้า ทำกรรมชั่วช้าลามกสิ้นดี
ครั้นพระเจ้าอชาติศัตรูได้ทรงสดับข่าวติฉินร้ายแรงเช่นนั้น
ก็ละอายพระทัย จึงเลิกโรงทานที่จัดอาหารบำรุงพระเทวทัตและศิษย์เสียสิ้น
ทั้งไม่เสด็จไปหาพระเทวทัตเหมือนแต่ก่อน แม้ชาวเมืองทั้งหลายก็ไม่ศรัทธาเลื่อมใส
ไม่พอใจให้การบำรุง แม้พระเทวทัตไปสู่บ้านเรือนใด
ๆ ก็ไม่มีใครต้อนรับ เพียงแต่อาหารทัพพีหนึ่งก็ไม่ได้
พระเทวทัตได้เสื่อมเสียจากลาภสักการะทั้งปวง
คัดมาจาก พุทธประวัติทัศนศึกษา
โดย พระธรรมโกศาจารย์ (ชอบ อนุจารี)
http://dharma-gateway.com/buddha/buddha-main-page.htm
|